'มาดามเดียร์' เผย ส.ส.พลังประชารัฐ ร่วมมือรัฐบาลแก้ภัยแล้งทุกมิติ

'มาดามเดียร์' เผย ส.ส.พลังประชารัฐ ร่วมมือรัฐบาลแก้ภัยแล้งทุกมิติ

"มาดามเดียร์" เผย ส.ส.พลังประชารัฐ ร่วมมือรัฐบาลเร่งแก้ปัญหาภัยแล้งทุกมิติ ตอบรับมาตรการเชิงรุกศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจฯ บรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน

เมื่อวันที่ 12 ม.ค.63 น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้งในขณะนี้ว่า ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐทุกจังหวัดให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหา และช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้งทั้งด้านอุปโภคบริโภคและด้านการเกษตร

โดยประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนทั้งในระยะเร่งด่วน และระยะยาว และพร้อมทำงานคู่ขนานรวมถึงให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในทุกมิติขณะเดียวกันในส่วนของรัฐบาลโดยการนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ก็มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนและดำเนินการแก้ปัญหาในทุกมิติ ตามแผนระยะสั้นและระยะยาว มีการบูรณาการการทำงานของทุกกระทรวงเข้าด้วยกัน 

และล่าสุดมีการตั้งศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจและแผนปฏิบัติการป้องกัน และแก้ไขปัญหาวิกฤติน้ำซึ่งกําหนดให้มีกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ เป็นองค์กรภายใต้ศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจฯ มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้อำนวยการ และได้สั่งการให้เร่งหาแนวทางบรรเทาและควบคุมสถานการไม่ให้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น 

โดยต้องผนึกกําลังทุกหน่วยงาน บูรณาการทํางานร่วมกัน เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน ลดความเสียหายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึงและทันเวลาสำหรับมาตรการระยะสั้นนั้น รัฐบาลเน้นไปที่การบรรเทาความเดือดร้อนในพื้นที่ประสบภัย โดยประชาชนต้องมีน้ำกินน้ำใช้อย่างเร่งด่วน มีการสั่งการให้ขุดบ่อบาดาลทั่วประเทศจำนวนกว่า 500 บ่อ เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่ 8.ม.ค.ที่ผ่านมา ควบคุมการปลูกพืชฤดูแล้ง ควบคุมการลำเลียงน้ำ รณรงค์การใช้น้ำอย่างประหยัด ซ่อมแซมระบบประปา เป็นต้น 

ส่วนแผนระยะยาว จะเดินตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ.2561 - 2580) เพื่อวางแผนการใช้น้ำอย่างมั่งคง ยั่งยืน แก้น้ำแล้ง - น้ำท่วมซ้ำซาก โดยมีกรอบใหญ่ ๆ 6 ด้าน คือ

1.การจัดการน้ำอุปโภคบริโภค 

2.การสร้างความมั่นคงของน้ำภาคการผลิต 

3.การจัดการน้ำท่วมและอุทกภัย

4.การจัดการคุณภาพน้ำและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ 

5.การอนุรักษ์ฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำที่เสื่อมโทรมและป้องกันการพังทลายของดิน 

6.การบริหารจัดการ

ซึ่งทั้ง 6 กรอบจะเป็นแนวทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินไปตามแผนเดียวกันทั้งหมดในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาทรัพยากรน้ำของประเทศอย่างยั่งยืนส่วนการแก้ไขปัญหาน้ำเค็ม นั้นได้มีการปรับแผนลำเลียงน้ำจากฝั่งตะวันตก ซึ่งมีปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำฯ มากกว่าระบายผ่านแม่น้ำแม่กลองมาช่วยเหลือในพื้นที่ของแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น โดยมีการทำงานร่วมกันของ การประปานครหลวง(กปน.) กรมชลประทาน(ชป.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) 

นอกจากจะช่วยในการรักษาคุณภาพน้ำในการผลิตน้ำประปาแล้ว ยังช่วยผลักดันน้ำเค็มที่รุกล้ำเข้ามาของแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย

"ในฐานะที่เป็นนักการเมืองต้องมีหน้าที่ในการดูแลปัญหาของประชาชน จะนำปัญหาของประชาชนมาสะท้อนให้รัฐบาลในรับทราบ ขณะเดียวกันในฐานะที่เป็นพรรครัฐบาลจะรายงานสิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการให้ประชาชนได้รับทราบเช่นกัน" น.ส.วทันยา กล่าวทิ้งท้าย