เอฟเอเอ จ่อปรับ 'โบอิง' 5.4 ล้านดอลล์

สื่อต่างประเทศรายงานว่า สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (เอฟเอเอ) เตรียมเรียกค่าปรับ 5.4 ล้านดอลลาร์กับบริษัทโบอิง เนื่องจากบริษัทไม่สามารถป้องกันการติดตั้งชิ้นส่วนปีกเครื่องบินที่บกพร่องบนเครื่องบินรุ่น 737 แม็กซ์จำนวนหลายสิบลำ

เครื่องบินโบอิงรุ่น 737 แม็กซ์ถูกสั่งห้ามบินทั่วโลกนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2562 หลังเกิดเหตุเครื่องบินรุ่นดังกล่าวตก 2 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม การเรียกค่าปรับดังกล่าวของเอฟเอเอ ไม่ได้ระบุถึงซอฟท์แวร์ควบคุมการบินที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุเครื่องบินตกดังกล่าว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2562 เครื่องบินโบอิง 737 แม็กซ์ 8 ของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ ประสบอุบัติเหตุตกหลังจากขึ้นบินได้เพียง 6 นาที ซึ่งทำให้ผู้โดยสาร 157 รายบนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นภายในเวลาเพียง 5 เดือน หลังจากเครื่องบินรุ่นเดียวกันของสายการบินไลอ้อนแอร์ของอินโดนีเซียตกเมื่อเดือนต.ค.ปี 2561 ซึ่งคร่าชีวิตผู้โดยสารทั้งหมด 189 ราย

หลังเกิดปัญหาด้านความปลอดภัย ทำให้โบอิง ตัดสินใจแต่งตั้งเดวิด คัลฮูน ก้าวขึ้นมาจากประธานบอร์ดบริหาร มาเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัทอย่างเต็มตัว แทนที่เดนนิส มุยเลนเบิร์ก ที่ถูกบอร์ดปลดออกจากตำแหน่งซีอีโอ ส่งผลให้อนาคตของโบอิงอยู่ในมือคัลฮูน ผู้บริหารวัย 62 ปี ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักบริหารจัดการภาวะวิกฤต ที่สามารถทำงานภายใต้แรงกดดันได้อย่างดี ด้วยประสบการณ์ในบอร์ดของโบอิงมายาวนานนับ 10 ปี

ความท้าทายของคัลฮูนคือการพลิกฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทและหน่วยงานกำกับดูแลความปลอดภัยทางการบิน การบริหารจัดการงบการเงินที่ถูกบีบหลังจากเกิดวิกฤตด้านความปลอดภัย รวมไปถึงการนำเครื่องบินโบอิง 777 เอ็กซ์ เครื่องรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดในช่วงเวลาที่การตรวจสอบจากภาครัฐเป็นไปอย่างเข้มงวด

คัลฮูน ถูกตั้งความหวังว่าจะเข้ามาแก้ปัญหาได้โดยไม่ต้องใช้เวลาสร้างความคุ้นเคยใดๆ และจะเป็นบุคคลที่เหมาะสมในการบริหารจัดการภาวะวิกฤต แม้อีกส่วนยังไม่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงเพียงเท่านี้จะสามารถเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กรของโบอิงได้