ปรับตัวสูงขึ้น

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เรามีมุมมอง Positive และคาดดัชนีฯ ปรับตัวสูงขึ้น แนวต้าน 1590 / 1595 จุด แนวรับ 1568 / 1565 จุด โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1) จีนส่งกาหนดการเดินทางเยือนสหรัฐฯ ในวันที่ 13-15 ม.ค. ของผู้นาการค้า หลิว เหอ เป็นการยืนยันว่าการเซ็นสัญญาเฟสแรกระหว่างจีนกับสหรัฐฯ จะเกิดขึ้นตามกาหนดในวันที่ 15 ม.ค. และเป็นปัจจัยบวกต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก 2) กลุ่มผู้ผลิตชิพ นาตลาดขึ้นวันนี้ รับข่าวยอดขาย Iphone ในจีนเดือน ธ.ค. พุ่งขึ้นถึง 18% YoY เป็น 3.2 ล้านเครื่อง สูงขึ้นเหนือคาดหมาย

ประเด็นสำคัญวันนี้: USA-รายงานจ้างงานเดือน ธ.ค. คาดเพิ่มขึ้น 172k และอัตราว่างงานที่ 3.5% ไทย-ผลโหวตงบประมาณปี 2020 วาระ 3 ของสภาผู้แทน และผลตัดสินของศาลปกครองสูงสุดกลุ่มซีพีมีสิทธิ์ประมูลโครงการอู่ตะเภา มูลค่า 2.9 แสนล้านบาท หรือไม่

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วานนี้

+ ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวตามตลาดหุ้นโลก: ดัชนีฯ ปรับสูงขึ้นตั้งแต่เปิดตลาด ก่อนมาปิดตลาดที่ใกล้ระดับสูงสุดของวันที่ 1579.64 จุด +20.37 จุด +1.31% วอลุ่ม 6.65 หมื่นล้านบาท ทุกกลุ่มอุตฯ ปรับสูงขึ้น ยกเว้นกลุ่ม ICT ยานยนต์ โดยกลุ่มอุตฯ ที่ปรับขึ้นสูงสุด คือ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +5.16% ปิโตรฯ +3.65% รับเหมาฯ +3.25%

+ ตลาดหุ้นโลกขึ้นต่อเนื่อง: การคาดว่าการเจรจาการค้าเฟสแรกจีนกับสหรัฐฯ จะเกิดขึ้นสัปดาห์หน้าและสถานการณ์ตะวันออกกลางที่คลี่คลาย เป็นปัจจัยบวกต่อการแรลลี่ต่อเนื่องของตลาดหุ้นโลก DJ +0.74% S&P500 +0.67% Nasdaq +0.81% DAX +1.31% CAC40 +0.19% FTSE +0.31%

- ราคาน้ำมันดิบและทองคำร่วงต่อเล็กน้อย: WTI -USD0.05 ปิดที่ USD59.56/บาร์เรล Brent -USD0.07 ปิด USD65.37/บาร์เรล หลังความตึงเครียดตะวันออกกลาง ผ่อนคลายและทองคำร่วง-USD5.9 -0.38% ปิด USD1554.3/ออนซ์ จากการแข็งค่าของสกุล USD

ประเด็นสำคัญ

+ Trade War: รองนายกฯ จีน หลิว เหอ ซึ่งเป็นผู้นาเจรจาการค้าจีน มีกาหนดการเดินทางไปสหรัฐฯ ในวันที่ 13-15 ม.ค. นี้ เพื่อลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรก ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนครั้งแรกของจีนว่าจะมีการเซ็นสัญญาฯ เกิดขึ้นสัปดาห์หน้า ขณะที่ปธน.ทรัมป์ ส่งสัญญาณดีลเฟส 2 อาจรอได้จนหลังเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ

+ USA: สภาผู้แทนฯ โหวตผ่านเช้านี้ ญัตติว่าด้วยการจากัดอานาจของปธน.ทรัมป์ ในการใช้ปฏิบัติการทางทหารกับอิหร่าน 224 ต่อ 194 เสียง ก่อนเสนอวุฒิสภาพิจารณาและหากเห็นชอบ ก็จะทาให้ปธน.ทรัมป์ ต้องถอนทหารออกจากอิหร่านภายใน 30 วัน

- Geopolitical Risk: ผู้นาแคนาดา เผยเครื่องบินยูเครน ไฟล์ 752 ที่ตกในอิหร่าน เป็นผลจากการถูกจรวดของอิหร่านยิงตกอย่างไม่ได้ตั้งใจ

+ ไทย: ธปท. มีแผนผ่อนคลายเกณฑ์เงินทุนเคลื่อนย้ายเพิ่มเติม เพื่อลดแรงกดดันการแข็งค่าของเงินบาท โดยเตรียมขยายวงเงินที่ผู้ส่งออกสามารถคงรายได้ในต่างประเทศจาก 2 แสนดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อใบขน

+ ไทย: KTB คาดเศรษฐกิจไทยปี 2019-20E เติบโต 2.5% และ 2.8% โดย 1Q20E คาดเติบโต 2.4% YoY +0.8% QoQ และหากธปท. ผ่อนคลายเกณฑ์ LTV จะส่งผลบวกต่อการกู้ซื้อที่อยู่อาศัยสัญญาที่ 2 เติบโต 2% (Vs เดิมคาด -14%)และธุรกิจคอนโดฯ เติบโต 4-5% (จากปีก่อน -11%)

- ICT: ผู้ประกอบการที่ยื่นขอรับเอกสาร 5G ล่าสุดมี 4 รายแล้ว ได้แก่ TRUE DTAC TOT CAT โดยจะยื่นขอได้จนถึงวันที่ 3 ก.พ. โดยวันประมูลจะอยู่ในวันที่ 16 ก.พ.

+ โลก: World Bank คาดเศรษฐกิจโลกปี 2020E จะเติบโต 2.5% (Vs ปี 2019E +2.4%) โดยกลุ่มประเทศ Emerging Markets จะเติบโต 4.1% (Vs ปี 2019E +3.5%) และเตือนความเสี่ยงของ Global Debt Crisis อาจก่อให้เกิดวิกฤติ

กลยุทธ์: Trading Buy โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

หุ้นแนะนารายสัปดาห์: ORI PTTEP CK

หุ้นโมเมนตัมบวก: กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ / รับเหมาก่อสร้าง BAM CPF IVL OSP KCE TMB PTG STEC TU TKN TOA BEAUTY IMH TASCO PORT TFG DELTA

หุ้นโมเมนตัมลบ: AEONTS YGG KTC

Derivatives: แนะเปิด Long S50H20 เก็งกาไรช่วงเวลา 10:30-11:00 น. (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)