ญี่ปุ่นย้ำการทูตตะวันออกกลาง

ญี่ปุ่นย้ำการทูตตะวันออกกลาง

ญี่ปุ่นย้ำการทูตตะวันออกกลางด้วยเหตุผลว่าญี่ปุ่นนำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางราว 90% จึงกังวลมากกับเสถียรภาพในภูมิภาค

เนื่องในโอกาสที่โมเทกิ โทชิมิทสึ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ประเทศญี่ปุ่น เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 7-8 ม.ค. 2563 เพื่อแนะนำตัวหลังเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2562 และได้เข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

อัตสุชิ ไคฟุ รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นได้พบปะสื่อมวลชนไทย ได้ชี้แจงภารกิจการเยือนที่รอบนี้รัฐมนตรีมาเยือนถึง 4 ประเทศทั้งเวียดนาม ไทย ฟิลิปปินส์ ก่อนจบลงที่อินโดนีเซีย

เรื่องที่ทั้ง 2 ฝ่ายหารือกันนอกจากความสัมพันธ์ทวิภาคี และความเป็นไปในภูมิภาคอาเซียน ยังมีประเด็นระหว่างประเทศ ที่ร้อนแรงในตอนนี้คือปัญหาในตะวันออกกลาง ที่ญี่ปุ่นจับตาอย่างใกล้ชิดและใช้ความพยายามอย่างถึงที่สุดรับรองความปลอดภัยให้พลเมืองญี่ปุ่น พร้อมๆ กับเดินหน้าใช้วิธีการทางการทูตผ่อนคลายความตึงเครียดและสร้างเสถียรภาพในภูมิภาค

รองโฆษกเล่าด้วยว่า อิหร่านกับญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์กันมานาน ฤดูร้อนปีก่อนนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ เดินทางเยือนอิหร่านพบกับประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี และอยาตอลลาห์ อาลี คามาเนอี ผู้นำสูงสุด ครั้นถึงเดือน ธ.ค.ประธานาธิบดีโรฮานีก็มาเยือนกรุงโตเกียว ได้สื่อสารกันอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ญี่ปุ่นยังติดต่อกับพันธมิตรรายอื่นและสหรัฐด้วยเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียด

ตามรายงานข่าวจากสื่อต่างประเทศ นายกฯ อาเบะ มีกำหนดเยือนซาอุดีอาระเบีย โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ระหว่างวันที่ 12-15 ม.ค. โดยกล่าวในที่ประชุมพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ว่า ตนห่วงสถานการณ์ในตะวันออกกลางมาก จึงหวังมีส่วนสร้างสันติภาพและเสถียรภาพในตะวันออกกลางด้วยการใช้การทูตผ่อนคลายความตึงเครียด

อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดเหตุอิหร่านยิงขีปนาวุธเข้าใส่ฐานทัพสหรัฐเมื่อเช้าตรู่วันพุธ (8 ม.ค.) แหล่งข่าวจากรัฐบาลญี่ปุ่นเผยว่า นายกฯ อาเบะเลื่อนแผนเยือนตะวันออกกลางออกไปก่อน

ผ่านไปกว่า 12 ชั่วโมงฝั่งสหรัฐเข้าสู่เช้าวันพุธ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แถลงถึงเหตุโจมตีล่าสุดในอิรักว่า ทหารอเมริกันทั้งหมดปลอดภัย สหรัฐจะคว่ำบาตรอิหร่านเพิ่มขึ้นทันที แต่ไม่ได้พูดถึงการตอบโต้ทางทหาร

นายกฯ ญี่ปุ่นตอบรับท่าทีของสหรัฐ โดยแถลงวานนี้ (9 ม.ค.) ยืนยันว่า ญี่ปุ่นจะใช้ความพยายามทางการทูตทุกวิถีทางเพื่อผ่อนคลายสถานการณ์และสร้างเสถียรภาพในตะวันออกกลางต่อไป

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ญี่ปุ่นนำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางราว 90% จึงกังวลมากกับเสถียรภาพในภูมิภาค รัฐบาลโตเกียวเล็งส่งทหารจากกองกำลังป้องกันตนเองเข้าไปในภูมิภาค ไม่รวมช่องแคบฮอร์มุซ เพื่อคุ้มครองการเดินเรือขนส่งสินค้าของญี่ปุ่น

ส่วนสถานทูตญี่ปุ่นในกรุงแบกแดดปิดชั่วคราวหลังจากแจ้งให้พลเมืองญี่ปุ่นทุกคนอพยพแล้ว แต่สถานกงสุลในเมืองเออร์บิลทางตอนเหนือของอิรักยังเปิดให้บริการ ล่าสุดสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานว่า นายกฯ อาเบะเยือนตะวันออกกลางตามแผนเดิม