กรมวิชาการฯ ปรับแผนรับงบลด 50%

กรมวิชาการฯ ปรับแผนรับงบลด 50%

กรมวิชาการเกษตร จัดระเบียบงบประมาณดำเนินงานปี 63 หลังถูกปรับลด 50% ป้องงานวิจัยพันธุ์พืช โครงการพระราชดำริ งานบริการประชาชนและการส่งออก ต้องได้รับผลกระทบน้อยที่สุดพร้อมงดประชุมนอกสถานที่

นางสาวเสริมสุข สลักเพ็ชร์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรณีคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ได้ปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ของกรมวิชาการเกษตร ซึ่งเป็นงบการดำเนินงานลดลง 50%เพื่อลดผลกระทบต่อการดำเนินงาน โดยเฉพาะงานตามภารกิจและงานสำคัญตามนโยบายของรัฐบาล กรมวิชาการเกษตรได้กำหนดแนวทางการบริหารงบประมาณ โดยปรับแผนในการดำเนินงานให้มีความสอดคล้องกับงบประมาณที่ได้รับคำนึงถึงการใช้งบประมาณที่มีอยู่ให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกโครงการและทุกแผนงานที่ได้วางไว้ ซึ่งงบประมาณที่ถูกปรับลดลงนี้ เป็นงบประมาณการดำเนินงานไม่เกี่ยวข้องกับงบลงทุนในการจัดซื้อครุภัณฑ์ และสิ่งก่อสร้างแต่อย่างใด

157856927585

ทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตรได้ทำหนังสือชี้แจงและทำความเข้าใจให้ทุกหน่วยงานทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเพื่อพิจารณาทบทวนจัดลำดับความสำคัญ รายละเอียดกิจกรรมเนื้องานที่มีความสำคัญ จำเป็น และเหมาะสมในการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2563 โดยเฉพาะงานวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชซึ่งเป็นภารกิจหลักของกรมวิชาการเกษตร โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ งานด้านบริการที่มีผลกระทบต่อประชาชนและการส่งออก เช่น การตรวจรับรองแหล่งผลิตพืช (GAP) โรงงานแปรรูป โรงรม (GMP) การตรวจสอบปัจจัยการผลิต ศัตรูพืชและออกใบรับรองบริการวิชาการด้านพืช การผลิตเมล็ดพันธุ์ดีซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญและตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลเพื่อจำหน่ายและจ่ายแจกให้แก่เกษตรกร เช่น มันสำปะหลัง ข้าวโพด รวมทั้งพืชตระกูลถั่วที่ใช้น้ำน้อย งานบริการทั้งหมดนี้จะต้องได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ส่วนงานอื่นๆ ให้พิจารณาปรับลดปริมาณงานตามวงเงินงบประมาณที่ได้รับ

“ในปี63 งบประมาณของกรมวิชาการเกษตรจำนวน 1,277 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบดำเนินงานไม่ใช่งบลงทุนจัดซื้อครุภัณฑ์และสิ่งก่อสร้าง ถูกปรับลดลงจำนวน 638 ล้านบาท หรือคิดเป็น 50%ของงบดำเนินงาน ซึ่งกรมฯได้กำชับให้ทุกหน่วยงานใช้จ่ายงบประมาณอย่างประหยัด คุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุดต่องานราชการ โดยย้ำให้ทุกหน่วยงานในสังกัดทราบว่างานวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืช โครงการพระราชดำริ งานด้านบริการต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อประชาชนและการส่งออก ต้องได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ส่วนกิจกรรมบางชนิดที่สามารถปรับลดได้ให้ดำเนินการทันที เช่น การติดตามประเมินผล การจัดประชุมนอกสถานที่โดยให้ใช้วิธีการประชุมทางไกลผ่านทางจอภาพ หรือ VIDEO Conference แทน เป็นต้น”