ทอท.ปิดดีลขุมทรัพย์ 'ดิวตี้ฟรี' ลุยเปิดเสรีพิคอัพเคาท์เตอร์

ทอท.ปิดดีลขุมทรัพย์ 'ดิวตี้ฟรี' ลุยเปิดเสรีพิคอัพเคาท์เตอร์

สิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร หรือดิวตี้ฟรี เป็นอีกหนึ่งบิ๊กดีลสำคัญของปี 2562

เนื่องจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ทยอยเปิดประมูลอย่างต่อเนื่อง โดยบิ๊กดีลที่เรียกว่าดึงดูดความสนใจจากเอกชนไม่น้อย เห็นจะเป็นดิวตี้ฟรีภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ด้วยศักยภาพของปริมาณการเดินทางผู้โดยสารที่มีมากกว่า 60 ล้านคนต่อปี ทำให้ดิวตี้ฟรีท่าอากาสยานแห่งนี้เป็นขุมทรัพย์โอกาสทำเงิน

ย้อนรอยการประมูลดิวตี้ฟรี “บิ๊กดีลแห่งปี” อย่างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต้องยอมรับว่าเป็นโครงการที่เอกชนสนใจเข้าร่วมชิงเค้กมากที่สุด มีเอกชนซื้อซองยื่นข้อเสนอ 5 ราย ได้แก่ 1.บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล 2.บริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี 3.บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) 4.บริษัท การบินกรุงเทพ (BA) และ 5.บริษัท โรงแรมรอยัลออคิด เชอราตัน (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ (GRAND)

แต่ท้ายที่สุดผลการประมูล บริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด เป็นผู้ได้รับสิทธิที่คะแนนสูงสุด อันดับ 1 คือ 94.30 คะแนน และเสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนปีละ 15,419,000,000 บาท อันดับ 2 กิจการร่วมค้าการบินกรุงเทพ ล็อตเต้ ดิวตี้ฟรี (ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ) คือ 83.10 คะแนน และเสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนปีละ 8,516,653,333 บาท อันดับ 3 บริษัท โรงแรมรอยัลออคิด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ยื่นข้อเสนอการดำเนินงานในนามกิจการร่วมค้า คือ 78.85 คะแนน และเสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนปีละ 7,255,000,000 บาท

157856780773

157857854419

เช่นเดียวกับ การประมูลได้รับสิทธิประกอบกิจการดิวตี้ฟรี 3 ท่าอากาศยานภูมิภาค (ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่) บริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด เป็นผู้ชนะ ด้วยข้อเสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนรายเดือน ในอัตรา 20% ของยอดรายได้จากการประกอบกิจการในรอบเดือนนั้นๆ ก่อนหักค่าใช้จ่าย หรือตามจำนวนเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายปี ปีแรก เป็นจำนวนเงิน 2,331,000,000 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

รวมทั้งล่าสุดเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา ทอท.ได้เปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอในส่วนของงานให้สิทธิประกอบกิจการดิวตี้ฟรี ท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งถือเป็นโครงการจัดหาเอกชนรับบริหารดิวตี้ฟรีส่วนสุดท้ายของ ทอท.โดยพบว่าโครงการนี้ มีค่อยได้รับความสนใจจากเอกชนเท่าที่ควร เนื่องจากท่าอากาศยานดอนเมืองมีพื้นที่ดิวตี้ฟรีไม่เท่ากับท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประกอบกับยังไม่มีแผนขยายศักยภาพท่าอากาศยาน เพิ่มพื้นที่อาคารและพื้นที่ดิวตี้ฟรีในอนาคต

โครงการดังกล่าว มีเอกชนเข้าซื้อซอง 2 ราย คือ บริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด และกลุ่มเดอะมอลล์ แต่เมื่อถึงคราวเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอ ปรากฏว่ากลุ่มเดอะมอลล์ ไม่ได้เข้ายื่นข้อเสนอ ส่งผลให้ บริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด เป็นเอกชนเพียงรายเดียวที่ยื่นข้อเสนอ และผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการคัดเลือก จนท้ายที่สุด ทอท.ได้เสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. พิจารณาเห็นชอบให้ บริษัท คิงเพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล

โดยคิงเพาเวอร์จะได้รับสิทธิประกอบกิจการฯ ณ ทดม. เป็นระยะเวลา 10 ปี 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2565 – 31 มี.ค.2576 ซึ่งผู้ได้รับสิทธิประกอบกิจการฯ ได้เสนอค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายปี (Minimum Guarantee) ปีแรก เป็นจำนวนเงินกว่า 1.5 พันล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งสูงกว่าประมาณการรายได้ที่ ทอท.คาดการณ์ว่าจะได้รับในปีสุดท้าย และสูงกว่าราคาที่ ทอท.คาดหวังไว้ ทั้งนี้คาดว่าจะลงนามในสัญญากับบริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ภายในเดือน ม.ค.2563

ท้ายที่สุด “บิ๊กดีล” ดิวตี้ฟรี 3 สัญญา รวม 5 ท่าอากาศยานของ ทอท. ยังคงมีเอกชนรายเดิมเป็นผู้บริหาร แต่สิ่งที่ต้องจับตาเมื่อการเปลี่ยนผ่านของธุรกิจดิวตี้ฟรีจะเริ่มเคลื่อนตัวอย่างชัดเจนในปี 2563 คือการเปิดประมูลจัดหาเอกชนรับสิทธิบริหารเคาน์เตอร์บริการส่งมอบสินค้า (Pick-up Counter) ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และดอนเมือง

เนื่องจาก ทอท.เตรียมเปลี่ยนกลไกของพิคอัพเคาท์เตอร์ จากเดิมที่ผูกขาดเอกชนบริหารเพียงรายเดียว ปรับเป็นการเปิดให้บริการคู่ขนาน 2 รูปแบบ คือ 1.ทอท. ให้บริการเคาน์เตอร์ส่งมอบสินค้าปลอดอากรแบบสาธารณะด้วยตนเอง และ 2. ให้สิทธิเอกชนให้บริการเคาน์เตอร์ส่งมอบสินค้าปลอดอากรแบบสาธารณะ (Common Use) โดย ทอท.มีกำหนดเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันที่ 17 ม.ค.นี้ ส่วนท่าอากาศยานดอนเมืองยังอยู่ในขั้นตอนเตรียมเปิดประมูลใหม่ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีเอกชนซื้อซองเพียงรายเดียว

157856790658

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า การประมูลให้บริการพิคอัพเคาท์เตอร์ ทอท.จะกำหนดให้ผู้ชนะการประมูลต้องเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรในเมืองรายอื่น สามารถมาใช้บริการการส่งมอบสินค้าปลอดอากรของตนได้ โดยคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมประมูลได้มีการเปิดกว้างให้ผู้ประกอบการทั่วไปสามารถร่วมการประมูลได้ มิใช่เพียงแต่ผู้ประกอบการที่ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลอดอากรเท่านั้น

ขณะเดียวกัน หากผู้ประกอบการรายอื่นไม่ต้องการรับส่งสินค้าที่เคาท์เตอร์ของเอกชนที่ได้รับสิทธิ์พิคอัพเคาท์เตอร์ ทอท.ก็จะให้บริการเคาน์เตอร์ส่งมอบสินค้าปลอดอากรด้วยตนเองควบคู่กันไปด้วย จึงถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่จะทำให้ผู้ประกอบการที่คุณสมบัติตรงตามข้อกำหนด ทั้งผู้ที่มีประสบการณ์ธุรกิจดิวตี้ฟรี หรือธุรกิจห้างสรรพสินค้า ก็สามารถทำกิจการสินค้าปลอดอากร อีกทั้งยังเพิ่มช่องทางจำหน่ายรับส่งสินค้าที่สนามบินได้ด้วย

“การทำพิคอัพเคาท์เตอร์ทั้ง 2 รูปแบบ แบ่งเป็น Common Use เหมือนที่ท่าอากาศยานภูเก็ต และ รูปแบบที่ ทอท. ให้บริการเอง ตรงนี้เป็นวิวัฒนาการจากท่าอากาศยานภูเก็ต ที่ผู้ประกอบการอื่นกลัวอีกเจ้าจะรู้ข้อมูลทางการตลาด ดังนั้นจากนี้ไปหากใครกลัว ก็มาใช้บริการของ ทอท​. ได้ และการเปิดให้บริการพิคอัพเคาท์เตอร์ จะทำให้เกิดการเปิดเสรีดิวตี้ฟรีในเมืองเป็นคู่แข่งกับดิวตี้ฟรีในท่าอากาศยาน ทลายผูกขาดดิวตี้ฟรีเพียงรายเดียวอย่างชัดเจน”

157856793759

สำหรับการเปิดให้บริการพิคอัพเคาท์เตอร์ของ ทอท.ถือเป็นอีกหนึ่งรายได้นอกเหนือธุรกิจการบิน (นอนคอร์) เดิมที่รายได้ในส่วนดังกล่าว ทอท.จะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากเอกชนผู้ได้สิทธิบริหาร แต่การเปิดรับสินค้าอย่างเสรีลักษณะนี้ จะทำให้รายได้ของ ทอท.ยังคงได้จากเอกชนที่ได้รับสิทธิบริหาร และอีกส่วนคือรายได้จากการจัดเก็บของ ทอท.เอง แต่จะเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นมากหรือน้อยเท่าไหร่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณของผู้ประกอบการดิวตี้ฟรีที่จะเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ส่วนแบ่งรายได้จากร้านค้าปลอดอากร หรือการให้บริการในปี 2561 ที่ ทอท.ได้รับ พบว่ามีจำนวน 60,537ล้านบาท โดยมีรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ อยู่ที่ 16,710ล้านบาท คิดเป็น 27.60% ของรายได้รวม และเพิ่มขึ้น 11.72% จากปี 2560

ดังนั้นนัยยะสำคัญที่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจดิวตี้ฟรีหลังจากนี้ แน่นอนว่าการปลดล็อคข้อจำกัดของพิคอัพเคาท์เตอร์ ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ต้องจับตามอง เพราะนอกจากจะช่วยทลาย “ผูกขาดดิวตี้ฟรี” รัฐวิสาหกิจอย่าง ทอท.ก็จะมีรายได้จากการจัดเก็บค่าธรรมเนียมรับส่งสินค้าเพิ่มขึ้น ไม่เพียงรอส่วนแบ่งรายได้อย่างที่เคยเป็นมา

157856796073