ปรับตัวลดลง

ปรับตัวลดลง

Trading Buy โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เรามีมุมมอง Negative และคาดดัชนีฯ ปรับตัวลดลง แนวต้าน 1590/1595 จุด แนวรับ 1580 / 1570 จุด เป็นผลจาก การวิตกต่อ Geopolitical Risks หลังเช้านี้อิหร่านยิงขีปนาวุธหลายลูกถล่มฐานทัพสหรัฐฯ ในอิรัก เพื่อล้างแค้น และคาดว่าสหรัฐฯ จะตอบโต้กลับในเร็วๆ นี้ เรายังคงมุมมองกรณี Base Case คือ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นจะไม่ลุกลามจนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 3 ส่วนปัจจัยบวก คือ การพิจารณางบประมาณปี 2020 วาระ 2-3 ของไทย คาดว่าสภาฯ จะอนุมัติได้ภายในสัปดาห์นี้ ก่อนส่งเรื่องต่อให้วุฒิสภาและนายกฯ ขึ้นทูลเกล้าถวาย ภายในปลายเดือนนี้ และการเซ็นสัญญาการค้าเฟสแรกระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง และจะเป็นปัจจัยสาคัญต่อการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ประเด็นสำคัญวันนี้: USA-จานวนการจ้างงานภาคเอกชนเดือน ธ.ค.

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วานนี้

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกตามตลาดหุ้นโลก: ดัชนีฯ ปรับขึ้นตั้งแต่เปิดตลาด และยืนในแดนบวกตลอดการซื้อขาย ก่อนมาปิดตลาดที่ระดับใกล้สูงสุดของวันที่ 1585.23 จุด +16.73 จุด +1.07% วอลุ่มหนาแน่น 6.19 หมื่นล้านบาท กลุ่มอุตฯ ที่ปรับขึ้นสูงสุด ได้แก่ ขนส่ง +2.12% ICT +1.77% รับเหมาก่อสร้าง +1.54% ไฟแนนซ์ +1.47%

- ตลาดหุ้นโลกดิ่งลงแรงเช้านี้ : การโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในอิรัก เพื่อแก้แค้น โดยอิหร่าน ส่งผลตลาดหุ้นโลกเช้านี้ต่างปรับตัวลดลง โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่น -2.52% ขณะที่ DJ Future -1.36% Nasdaq Future -1.64%

- ราคาน้ำมันดิบโลกและทองคำพุ่งแรงเช้านี้: ผลจากอิหร่านล้างแค้นโดยการโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในอิรัก ส่งผลต่อ Gold Future เช้านี้ +2.5% อยู่ที่ USD1610/ออนซ์ และราคาน้ำมันดิบ Future WTI +4.5% หรือ +USD2.8 เป็น USD65.53/บาร์เรล สูงสุดตั้งแต่เดือน เม.ย. 2019

ประเด็นสาคัญ

- USA-Iran: กองกาลังพิทักษ์การปฎิวัติอิสลามของอิหร่าน ได้ยิงขีปนาวุธแบบพื้นสู่พื้นจานวนหลายสิบลูกเข้าใส่ฐานทัพอากาศสหรัฐฯ ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดอันบาร์ ทางตะวันตกของประเทศอิรัก เพื่อล้างแค้นสหรัฐฯ ขณะที่ทาเนียบขาวออกแถลงการณ์ว่า ปธน.ทรัมป์ กาลังติดตามสถานการณ์โจมตีอย่างใกล้ชิดและกาลังหารือคณะที่ปรึกษาด้านความมั่นคง เพื่อตอบโต้อิหร่าน (เราคาดว่าเหตุการณ์ร้ายดังกล่าวจะเกิดขึ้นในพื้นที่จากัด และไม่ลุกลามเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 อิงการไม่มีประเทศมหาอานาจโลกออกมาสนับสนุนอิหร่านอย่างเต็มตัว)

+ USA: ISM Non-Mfg PMI เดือน ธ.ค. สูงกว่าคาด โดยอยู่ที่ 55 (Vs เดือน พ.ย. 53.9 และคาด 54.3) ส่วนดุลการค้าเดือน พ.ย. ขาดดุลต่าสุดตั้งแต่เดือน ต.ค. 2016 และลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง โดยอยู่ที่ -4.31 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (Vs เดือน ต.ค. -4.69 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และตลาดคาด -4.38 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)

- กลุ่มแบงก์: ธปท. ออกแนวทางปรับปรุงการคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม 3 เรื่อง ได้แก่ 1. การคิดค่าปรับหากมีการไถ่ถอนก่อนกาหนด 2. การคิดดอกเบี้ยผิดนัดชาระหนี้สาหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัย 3. การคืนค่าธรรมเนียมบัตรเอทีเอ็มหรือบัตรเครดิต ซึ่งโดยรวมคาดว่าจะเป็นลบต่อกลุ่มธนาคารฯ ที่มีสินเชื่อ SMEs, สินเชื่อบ้าน, สินเชื่อบุคคล ในสัดส่วนที่สูง (TMB 63% ของสินเชื่อ รองลงมา คือ KBANK 58% KTB 57% SCB 52%)

+ ไทย: สภาผู้แทนฯ จะมีการพิจารณางบประมาณรัฐบาลปี 2020 วาระ 2-3 วันนี้จนถึง วันศุกร์ ก่อนที่จะส่งให้วุฒิสภาพิจารณาวันที่ 20 ม.ค. และจากนั้นส่งให้นายกฯ เพื่อเสนอทูลเกล้าฯ ปลายเดือน ม.ค. ส่วนงบประมาณปี 2021 ครม. มีมติเห็นชอบต่อวงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท เป็นนโยบายแบบขาดดุล 5.23 แสนล้านบาท

+ ตลำดหุ้นไทย: ผลสารวจความเห็นของโบรกเกอร์ ให้เป้าหมายสิ้นปี 2020 ที่ 1679 จุด โดยใน 1Q20 อยู่ที่เฉลี่ย 1641 จุด ทั้งนี้ 58% ของผู้ถูกสารวจคาดจุดสูงสุดอยู่ที่ 1601-1650 จุด และ 23% คาดอยู่ที่ 1651-1700 จุด ส่วนจุดต่าสุดอยู่ที่ 1537 จุด หุ้นแนะนา AOT BBL CPF PTT PTTEP

- Trade war: รมช.เกษตรฯ จีน นายฮั่น จุน เผยว่า จีนจะยังไม่เพิ่มโควต้าการนาเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ โดยโควต้าการนาเข้าข้าวสาลี ข้าวโพด และข้าวนั้นจะไม่ปรับเปลี่ยนเพื่อประเทศใดประเทศหนึ่ง ซึ่งต่างจากที่สหรัฐฯ เคยพูดว่าจีนจะนาเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ มูลค่า USD5หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในไม่ช้านี้

กลยุทธ์: Trading Buy โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

หุ้นแนะนารายสัปดาห์: ORI PTTEP CK

หุ้นโมเมนตัมบวก: กลุ่มอิงน้ามันดิบโลก PTT PTTEP / BAM SAWAD BCH YGG BEAUTY AP STEC DOD CHAYO

หุ้นโมเมนตัมลบ: กลุ่มใช้น้าดิบโลก เช่น สายการบิน TASCO / PTG GLOBAL TTCL NWR

Derivatives: แนะถือสถานะ Short USDH20 (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)