นายกฯญี่ปุ่นเตรียมเยือน‘ตะวันออกกลาง’

โฆษกพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ของญี่ปุ่น แถลงว่า นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ จะเยือนซาอุดีอาระเบีย โอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ระหว่างวันที่ 12-15 ม.ค.

สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานว่า นายกฯ ประกาศเรื่องการเยือนระหว่างประชุมกรรมการบริหารพรรค

“ผมห่วงความตึงเครียดในตะวันออกกลางมาก จึงหวังมีส่วนสร้างสันติภาพและเสถียรภาพในตะวันออกกลางด้วยการใช้การทูตผ่อนคลายความตึงเครียด” นายอาเบะกล่าว

ช่วงไม่กี่เดือนนี้ นายอาเบะพยายามแสดงบทบาทคนกลางระหว่างพันธมิตรอย่างสหรัฐกับอิหร่าน ที่รัฐบาลโตเกียวมีความสัมพันธ์มาช้านาน

โตเกียวกับเตหะรานรักษาความสัมพันธ์ทางการทูตมานานหลายสิบปี แม้อิหร่านเกิดวิกฤติกับชาติตะวันตกหลังการปฏิวัติอิสลามในปี 2522 และความแตกแยกจากโครงการนิวเคลียร์

เดือน มิ.ย. ตอนที่ตึงเครียดหนักเพราะประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัดสินใจนำสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน นายอาเบะไปเยือนอิหร่านและเจรจากับอยาตอลเลาะห์ อาลี คามาเนอี ผู้นำสูงสุด และประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี แต่การเยือนของเขาเกิดขึ้นพร้อมๆ กับการโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำในทะเลโอมานนอกชายฝั่งอิหร่านทำให้อ่าวเปอร์เซียตึงเครียดขึ้นอีกครั้ง 

ส่วนคามาเนอีก็ไม่ยอมเจรจากับประธานาธิบดีทรัมป์ แม้นายอาเบะพยายามแผ้วทาง

ต่อมานายอาเบะพบกับนายโรฮานี นอกรอบการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ จากนั้นผู้นำอิหร่านมาเยือนญี่ปุ่นในเดือน ธ.ค. เป็นการเยือนญี่ปุ่นของหัวหน้ารัฐบาลอิหร่านครั้งแรกในรอบ 2 ทศวรรษ

กล่าวได้ว่า ญี่ปุ่นต้องพยายามรักษาสมดุลระหวางพันธมิตรหลักอย่างวอชิงตัน กับสายสัมพันธ์และผลประโยชน์ที่มีมาเนิ่นนานกับอิหร่าน

ก่อนหน้านี้ญี่ปุ่นเคยเป็นลูกค้ารายใหญ่ซื้อน้ำมันอิหร่านแต่ต้องหยุดไปตามการคว่ำบาตรของสหรัฐ หลังวอชิงตันถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านเพียงฝ่ายเดียวในเดือน พ.ค.2561