'เขื่อนอุบลรัตน์' ใช้น้ำก้นอ่างเกือบ 100 ล้าน วอนช่วยกันใช้น้ำตามแผนยืดเวลาถึงฤดูฝน

เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 63 นายพิพัทต์ คงสินทวีสุข ผู้อำนวยการโรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า ขณะนี้เขื่อนอุบลรัตน์ได้ใช้น้ำก้นอ่างมาตั้งแต่ วันที่ 7 พ.ย. 62 ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ใช้ติดลบไปแล้ว 97.81 ล้านลูกบาศก์เมตร เหลือน้ำเพียง 483.86 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 19.9 เปอร์เซ็นต์ของความจุ โดยเขื่อนปล่อยน้ำตามแผนการระบายน้ำของชลประทานที่คิดไว้ทั้งหมด ที่จะใช้น้ำตั้งแต่ 1 พ.ย. 62 จนถึงเดือน พ.ค. 63 จำนวน 189 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อใช้สำหรับอุปโภคบริโภคและระบบนิเวศน์เท่านั้น โดยขอความร่วมมือตั้งแต่ต้นฤดูแล้ว ว่าอย่าสูบไปทำกิจกรรมอื่น โดยเฉพาะการทำนา ที่ต้องใช้น้ำมาก ซึ่งทางชลประทานเองนั้นก็มีการควบคุมไม่ปล่อยน้ำเข้าสู่ระบบชลประทาน โดยเขื่อนระบายวันละ 5 แสนลูกบาศก์เมตรมาได้เป็นวันที่ 3 แล้ว จากเดิมระบายวันละ 5.5 แสนลูกบาศก์เมตร

"น้ำได้ลดไปมากกว่าวันละล้านกว่า เพราะการระเหยเฉลี่ยวันละ 8 แสน ถึง 1 ล้านลูกบาศก์เมตร และไม่มีน้ำไหลเข้ามาเติม จากก่อนหน้ามีน้ำไหลเข้า วันละ 5 หมื่นคิว และไม่สามารถระบายน้ำผ่านเครื่องผลิตไฟฟ้ามาแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ แต่เราเปิดผ่านประระบายน้ำกรณีพิเศษ ปล่อยทางช่องนั้น 24 ชั่วโมง เพราะถ้าเปิดทำให้เครื่องสั่นสะเทือนมาก เกิดโพรงอากาศในกังหัน ซึ่งต้องหยุดผลิตกระแสไฟฟ้าไปจนกว่าระดับน้ำจะเพิ่มถึง 500 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงจะสามารถกลับมาเดินเครื่องได้ อยากขอให้ทุกคนช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัด แม้ว่าน้ำจะไม่หมดแต่ก็เหลือน้อยมาก จากที่ประเมินไว้ถ้าหากระบายน้ำวันละ 5 แสนคิว แต่น้ำก็ระเหยตลอดเวลา จนถึงเดือน พ.ค. คาดว่าน้ำจะเหลือประมาณ 200 ล้านกว่าเท่านั้น เพราะน้ำปีนี้ถือว่าเข้าอ่างน้อยที่สุดในรอบ 53 ปี แค่ 370 ล้านคิวเท่านั้น ประกอบกับน้ำติดลบอยู่แล้ว และต้องเฝ้าระวังขอความร่วมมือกับทุกฝ่ายให้ทำทุกอย่างตามแผนการใช้น้ำ ไม่ให้เกิดเหตุฉุกเฉินหรือน้ำเน่าจนต้องมีการระบายน้ำเพิ่ม เพราะถ้าเกิดเหตุการณ์ที่เป็นปัญหาจะกระทบปริมาณน้ำที่น้อยอยู่แล้ว และถ้าหากว่าฝนล่าหรือมีน้ำน้อย จะกระทบระยะยาว น้ำก้นอ่างจึงต้องสงวนเพื่อสำรองไว้" นายพิพัทต์ กล่าว