บิ๊กตร. เรียกประชุมมือปราบ ล่าคนร้ายยิงถล่มรถ 'บิ๊กโจ๊ก'

บิ๊กตร. เรียกประชุมมือปราบ ล่าคนร้ายยิงถล่มรถ 'บิ๊กโจ๊ก'

"พล.ต.อ.วิระชัย" เรียกประชุมชุดสืบสวนเร่งติดตามคนร้ายก่อเหตุยิงรถยนต์ "พล.ต.ท.สุรเชษฐ์" โดยใช้เวลาประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง เบื้องต้นยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง พร้อมสั่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม เพื่อขยายผลเส้นทางหลบหนี

เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล, ชุดสืบสวน สน.ปทุมวัน และ ชุดสืบสวน สน.บางรัก หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิงรถยนต์ส่วนตัวของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จำนวน 7-8 นัด โดยกระสูนถูกช่วงประตูด้านซ้ายฝั่งผู้โดยสาร แต่โชคดีที่ขณะนั้น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ไม่ได้อยู่ในรถ จึงทำให้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต

พล.ต.อ.วิระชัย เปิดเผยว่า คดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง ซึ่งจากการพูดคุยกับ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ในเบื้องต้น ไม่มีประเด็นในเรื่องของชู้สาว หรือความขัดแย้งทางธุรกิจ โดยในวันพรุ่งนี้ (8 ม.ค. 63) จะนัด พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งที่สถานีตำรวจนครบาลบางรัก ในเวลา 12.30 น. นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้ฝ่ายสืบสวน เร่งวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเชื่อว่าขณะนี้ผู้ก่อเหตุน่าจะมีมากกว่า 2 คน โดยมีการวางแผนมาเป็นอย่างดี ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ตัดประเด็นการยิงผิดตัวทิ้งไป เพราะมีไม่กี่คนที่ทราบว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ใช้รถยนต์คันนี้ ส่วนจะมีการจัดฉากสร้างสถานการณ์หรือไม่ ตำรวจก็จะมีการตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วยเช่นกัน

สำหรับเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี เบื้องต้นพบว่า เมื่อคนร้ายลงมือก่อเหตุแล้วได้ขับรถจักรยานยนต์ย้อนกลับมาทางเดิม เนื่องจากซอยดังกล่าวเป็นซอยตัน ก่อนขับมุ่งหน้าไปทางแยกอังรีดูนังต์ และเลี้ยวซ้ายวิ่งไปตามถนนพระราม 4 มุ่งหน้ามาแยกสามย่าน ดังนั้น จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวน เร่งขยายผลตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้อง มาให้ปากคำเพิ่มเติมโดยเฉพาะ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ที่จะมาให้ปากคำในวันพรุ่งนี้ เพื่อคลี่คลายหลายประเด็นที่สังคมสงสัย