คณะกรรมการ ปคม. เห็นชอบร่างรายงานการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ปี 62

คณะกรรมการ ปคม. เห็นชอบร่างรายงานการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ปี 62

คณะกรรมการ ปคม. เห็นชอบร่างรายงานการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ปี 62 ก่อนส่งสหรัฐฯ ภายใน 31 ม.ค. 63

เมื่อวันที่ 6 ม.ค.63 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (คณะกรรมการ ปคม.) ครั้งที่ 1/2563 โดยมี นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) พร้อมด้วยนายปรเมธี วิมลศิริ ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการ ปคม. ครั้งนี้ มีวาระสำคัญคือ การพิจารณาร่างรายงานผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของประเทศไทยประจำปี 2562 ฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยที่ประชุมได้เห็นชอบร่างรายงานทั้งสองฉบับเรียบร้อยแล้วโดยมีผลการดำเนินงาน 3 ด้านสำคัญ ดังนี้ 1) ด้านดำเนินคดีและบังคับใช้กฎหมาย: นำเสนอสถิติการปราบปรามดำเนินคดีค้ามนุษย์ 279 คดี จำแนกเป็นการแสวงหาประโยชน์ทางเพศ (ค้าประเวณี สื่อลามก และทางเพศอย่างอื่น) 179 คดี การบังคับขอทาน 7 คดี การบังคับใช้แรงงาน (แรงงานทั่วไป แรงงานในภาคประมง) 34 คดี การเอาคนลงเป็นทาส 33 คดี และการขูดรีดและอื่นๆ 26 คดี โดยมีการจับกุมผู้ต้องหาได้ 542 คน จำแนกเป็นชาย 323 คน และหญิง 222 คน การช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ จำนวน 1,807 คน การพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากทุกหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา

การพัฒนากระบวนการดำเนินคดีอย่างมีมาตรฐานและยึดหลักผู้เสียหายเป็นศูนย์กลางในทุกขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม 2) ด้านคุ้มครองช่วยเหลือ: การคุ้มครองผู้เสียหาย 1,537 คน ผู้เสียหายได้รับเงินชดเชยจากกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ 11.87 ล้านบาท และได้รับเงินค่าสินไหมทดแทน 3.33 ล้านบาท การจัดทำ Mobile Application“PROTECT-U” เพื่อเป็นช่องทางช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหาย นอกจากนี้ มีการจัดทำ QR Code นำเสนอกรณีตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จ (Success Story) ในการคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายอย่างมีประสิทธิภาพไว้ในรายงานด้วย และ 3) ด้านป้องกัน: กำหนดให้นายจ้างจัดทำสัญญาจ้าง 3 ภาษา (ภาษาของแรงงานต่างด้าว ภาษาไทย และภาษาอังกฤษไว้ในฉบับเดียวกัน) เพื่อคุ้มครองแรงงานต่างด้าวให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายและเพิ่มประสิทธิภาพ การตรวจแรงงานกลุ่มเสี่ยงและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิแรงงานอย่างเข้มงวด

พล.อ.ประวิตร กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้การจัดทำรายงานผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ประจำปี 2562 ทั้งฉบับภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงได้มอบให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการปรับปรุงรายงานให้มีความชัดเจน ครบถ้วน และสมบูรณ์ ก่อนนำกราบเรียนนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 15 มกราคม 2563 และจัดส่งให้สหรัฐอเมริกาภายในวันที่ 31 มกราคม 2563 เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการจัดระดับประเทศไทยในรายงานการค้ามนุษย์ ประจำปี 2563 ทั้งนี้ หากหน่วยงานใดมีปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน รัฐบาลยินดีให้การช่วยเหลือและสนับสนุนอย่างเต็มที่ และขอให้ทุกคนมุ่งมั่นทำงานเพื่อให้การค้ามนุษย์หมดสิ้นไปจากประเทศไทยตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลต่อไป