หุ้นรพ.รูดหวั่นประกันสังคมหั่นค่ารักษา

หุ้นรพ.รูดหวั่นประกันสังคมหั่นค่ารักษา

หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลดิ่งหนัก หลังประกันสังคมเล็งหั่นค่าชดเชยรักษาโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง ส่อฉุดผลประกอบการงวดไตรมาส 4/62 ส่อแววลดฮวบ โบรกเชื่อกดดันราคาหุ้นแค่ช่วงสั้น

วานนี้ (6ม.ค.2562) พบความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลปรับตัวลดลงกันถ้วนหน้า นำโดยบริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH ปิดตลาดอยู่ที่ 15.10 บาท ลดลง 1.40 บาท หรือ 8.48% มูลค่าซื้อขาย 1,027 ล้านบาท,บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH ปิดตลาดอยู่ที่ 138.50 บาท ลดลง 3.00 บาท หรือ 2.12% มูลค่าซื้อขาย 262 ล้านบาท,บริษัท โรงพยาบาล ลาดพร้าว จำกัด (มหาชน) หรือ LPH ปิดตลาดอยู่ที่ 4.80 บาท ลดลง 0.06 บาท หรือ 1.23% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.68 ล้านบาท  และบริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ RJH ปิดตลาดอยู่ที่ 24.40 บาท ลดลง 0.60 บาท หรือ 2.40% มูลค่าซื้อขาย 12.22 ล้านบาทส่วนบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS ปิดตลาดอยู่ที่ 25.25 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 1,188 ล้านบาท

นายสุวัฒน์ วัฒนพรพรหม ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า สาเหตุที่หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลลดลงแรง เชื่อว่ามีแรงกดดันจาก 2 ปัจจัยหลักๆ ได้แก่ 1.ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่านในภูมิภาคตะวันออกกลาง ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อฐานลูกค้าชาวตะวันออกกลางที่จะเข้ามารักษาในประเทศไทยให้ต้องหยุดชะงัก โดยเฉพาะลูกค้าหลักของ BDMS และ BH ที่ส่วนใหญ่เป็นชาวตะวันออกกลางจำนวนมาก

ส่วนปัจจัยที่ 2.คือการที่สำนักงานประกันสังคมได้ทำหนังสือถึงสถานพยาบาลในโครงการประกันสังคมทุกแห่ง ประกาศว่าจะมีการปรับลดการเหมาจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ประเภทผู้ป่วยในด้วยโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง( Adjusted RW ไม่ต่ำกว่า 2) เนื่องจากวงเงินงบประมาณคงเหลือในปี 2562 ไม่เพียงพอจึงส่งผลให้มีการลดวงเงินจ่ายลงเป็น 7,100 บาท/Adjusted RW จากเดิมที่มีวงเงินจ่ายที่ 12,800 บาท/Adjusted RW

อย่างไรก็ตามมองว่าปัจจัยดังกล่าวถือเป็นปัจจัยลบที่กดดันหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการประกันสังคมอย่าง BCH,RJH, LPH เนื่องจากจะทำให้โรงพยาบาลที่อยู่ในโครงการประสังคมจะได้รับเงินค่าบริการผู้ป่วยในด้วยโรคที่ค่ามีใช้จ่ายสูงที่ลดลง และส่งผลกระทบให้กำไรสุทธิงวดไตรมาส 4 ปี2562 มีแนวโน้มลดลงเมื่อเทียบจากปีก่อนและลดลงเมื่อเทียบจากไตรมาสก่อนหน้า

"ช่วงที่หุ้นโรงพยาบาลลดลงมาแรง แนะนำให้นักลงทุนเข้าสะสมได้ เนื่องจากเชื่อว่าผลกระทบดังกล่าวเป็นเพียงปัจจัยระยะสั้น ขณะที่คาดว่าจะมีแรงหนุนของกลุ่มจากการพิจารณาการปรับเพิ่มค่าเหมาจ่ายรายหัวเพิ่มของสำนักงานประกันสังคมภายในเดือนม.ค.นี้"