โลกต้องมี 'สันติสุข' เศรษฐกิจจึงจะเดินหน้า

โลกต้องมี 'สันติสุข' เศรษฐกิจจึงจะเดินหน้า

ความท้าทายปี 2563 ถ้าโลกไม่มีสันติสุข เศรษฐกิจจะเดินหน้าได้อย่างไร เพราะขณะนี้โลกเผชิญกับสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ภาวะสงครามการเมืองของสหรัฐ-อิหร่าน โรคปอดอักเสบที่แพร่กระจายในจีน และสำหรับไทยยังมีภัยแล้งที่ย่างกรายเข้ามาด้วย

เศรษฐกิจในปีที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่หนักหนาสาหัสสากรรจ์สำหรับภาคธุรกิจน้อยใหญ่ ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจในปี 2563 ซึ่งเพิ่งผ่านไปได้เพียงสัปดาห์เดียว ก็เกิด "2 เหตุการณ์" ที่ทำท่าจะปั่นป่วนเศรษฐกิจโลกเข้าให้อีก กับการเสียชีวิตของนายพลกาเซ็ม โซไลมานี อดีตผู้บัญชาการกองกำลังนักรบพิเศษ "คุดส์" ของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (ไออาร์จีซี) ซึ่งถูกนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ สั่งโจมตีทางอากาศที่สนามบินนานาชาติกรุงแบกแดดเมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา

เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบดีดตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเช้าวานนี้ (6 ม.ค.) ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือน ก.พ. ดีดตัวสูงขึ้นกว่า 1.3% อยู่ที่ 63.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล บนความวิตกว่าอิหร่านจะใช้ขีปนาวุธโจมตีประโยชน์ของสหรัฐในอ่าวเปอร์เซีย โดยเฉพาะแหล่งน้ำมันในซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก ยังเกิดความหวั่นเกรงต่อไปว่า เหตุการณ์ดังกล่าวจะ "บานปลาย" ส่งผลกระทบหนักไปกว่านี้หรือไม่ หากอิหร่านโต้กลับสหรัฐ ขณะที่สหรัฐไม่ยอมลดราวาศอก

อีกเหตุการณ์สำคัญ คือการระบาดของ "โรคปอดอักเสบ" ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน โดยคณะกรรมการด้านสาธารณสุขเมืองอู่ฮั่น ระบุว่า มีผู้ป่วยสะสมอย่างน้อย 59 คนตั้งแต่เดือน ธ.ค.ปีที่ผ่านมา แม้จะยืนยันว่าไม่ใช่ทั้งไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก เชื้อไวรัสอะดีโน และอาการเฉียบพลันรุนแรงที่เกิดขึ้นกับระบบทางเดินหายใจอย่างโรคซาร์ส หรือโรคเมอร์ส แต่เหตุการณ์นี้ก็ทำให้ "ทั่วโลก" รวมถึง "ไทย" เฝ้าระวังและยกระดับการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดดังกล่าว

นอกจากนี้ ปัจจัยในประเทศ ยังมีความเป็นไปได้ที่ไทยกำลังจะเผชิญกับ "ปัญหาภัยแล้ง" รุนแรง ซึ่งกระทบจากภาคการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมและภาคการเกษตรของไทย หลังพบว่า แหล่งน้ำขนาดใหญ่หลายแห่งของไทย มีปริมาณน้ำใช้การ น้อยกว่า 30% ล่าสุดรัฐบาลเตรียม "ตั้งศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจและแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาวิกฤติน้ำ" โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้บัญชาการอำนวยการแก้ไขปัญหาวิกฤติน้ำ ขณะที่การแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น ล่าสุดกระทรวงพลังงานเปิด "วอร์รูม" เพื่อรับมือสถานการณ์ตึงเครียดสหรัฐ-อิหร่าน

ทั้งนี้ในภาวะที่โลกกำลังเผชิญกับความ "ไม่แน่นอน" แม้ประเด็นเรื่อง "สงครามการค้า" ระหว่างสหรัฐและจีนดูเหมือนจะคลี่คลายลง แต่ก็มีความคุกรุ่นของ "สงครามการเมือง" ระหว่างสหรัฐกับอิหร่านเข้ามาแทนที่ ผสมโรงกับภาวะโรคปอดอักเสบ ที่ส่อจะบั่นทอนการเดินทางท่องเที่ยวของผู้คนทั่วโลก "ไทย" ย่อมหนีไม่พ้นผลกระทบดังกล่าว เนื่องจากไทยเป็นทั้งประเทศที่พึ่งพาการนำเข้าน้ำมัน เป็นพลังงานหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หากต้นทุนน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อต้นทุนประกอบการ ขีดความสามารถในการแข่งขันในประเทศ รวมถึงการส่งออก ขณะเดียวกันไทยยังพึ่งพานักท่องเที่ยวจีน ในฐานะนักท่องเที่ยวอันดับ 1 ของไทยทั้งในเชิงมูลค่าและปริมาณ ซึ่งล้วนท้าทายต่อเศรษฐกิจไทยในปีชวด ซึ่งยังกล่าว "แฮปปี้นิวเยียร์" กันได้ไม่กี่วัน ก็ออกอาการ "ไม่แฮปปี้" ซะแล้ว เพราะถ้าโลกไม่มีสันติสุข เศรษฐกิจจะเดินหน้าราบรื่นได้อย่างไร