ปรับลดลง

ปรับลดลง

Trading Buy โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เรามีมุมมอง Negative และคาดดัชนีฯ วันนี้ ปรับลดลง แนวต้าน 1600 / 1605 จุด แนวรับ 1585 / 1580 จุด เป็นผลจาก 1. ความเสี่ยง Geopolitical Risk ปรับสูงขึ้น: ปธน.ทรัมป์ประกาศพร้อมโจมตีอิหร่านหลายพื้นที่ หากผู้นาสูงสุดอิหร่าน โคมานิอี แก้แค้นให้กับนายพลโซเลิมินี ที่เสียชีวิตจากการโจมตีของสหรัฐฯ (อาจมีความรุนแรงคล้ายกับกรณีการโจมตีแหล่งน้ามัน Saudi Aramco เมื่อเดือน ก.ย. 2019) 2. การเกิดโรคระบาดติดเชื้อในระบบหายใจ (ไวรัสRSV) ในฮ่องกงและสิงคโปร์ หลังเดินทางกลับจากเมืองอู่ฮั่นของจีน อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจท่องเที่ยวคล้ายกับการเกิดโรค SAR ในอดีต 3. การเซ็นสัญญาการค้าจีนกับสหรัฐฯ เฟสแรก อาจมีปัญหาต้องเลื่อนออกไป หากจีนเข้ามาสนับสนุนอิหร่าน และทาให้ปธน.ทรัมป์ ไม่พอใจ

ประเด็นสำคัญวันนี้: ฟิลิปปินส์-ปธน.ดูเตอร์ตี้ ลงนามอนุมัติงบประมาณปี 2020 วงเงิน USD80.6bn, China-Caixin PMI Service/Composite เดือน ธ.ค.

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันศุกร์

+ ตลาดหุ้นไทยปิดลดลง: หลังจากดัชนีฯ ขึ้นไปสูงสุดของวันที่ 1604.43 จุด +8.61 จุด ในภาคเช้าของการซื้อขาย แต่แรงกดดันจากข่าวอิหร่าน-สหรัฐฯ ส่งผลตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดตลาดที่ระดับ 1594.97 จุด -0.85 จุด -0.05% วอลุ่มเพิ่มขึ้นเป็น 6.09 หมื่นล้านบาท หุ้นนำลง คือ กลุ่มโรงพยาบาล -2.86% ขนส่งและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -1.17% ส่วนกลุ่มปรับสูงขึ้น คือ พาณิชย์ +1.3% พลังงาน +0.91%

- ตลาดหุ้นโลกอ่อนตัวลง วิตกสงคราม: การวิตกต่อสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลังสหรัฐฯ สังหารผู้บัญชาการระดับสูงของอิหร่าน 2 คน ส่งผลต่อการขายทากาไรสินทรัพย์เสี่ยง ส่งผลลบต่อตลาดหุ้นโลก DJIA -0.81% S&P500 -0.71% Nasdaq -0.79% DAX -1.25% +1.03% แต่ CAC40+0.04% และ -0.07% FTSE+0.24% โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน

+ ราคาน้ำมันดิบโลกและทองคำพุ่งขึ้นแรง: WTI +USD1.87 หรือ +3.1% ปิดที่ USD63.05/บาร์เรล Brent +USD2.35 หรือ +3.6% ปิด USD68.60/บาร์เรล หลังจากผู้นำสูงสุดอิหร่าน คาเมเนอี ประกาศพร้อมตอบโต้สหรัฐฯ หลังสหรัฐฯ ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศยานที่กรุงแบกแดด ทำให้ผู้บัญชาการกองกาลัง Quds Force อิหร่านเสียชีวิต และสต็อกน้ามันดิบสหรัฐฯ สัปดาห์ก่อน ลดลงถึง 11.46 ล้านบาร์เรล (Vs คาดลดลง 5.5 ล้านบาร์เรล) ส่วนราคาทองปิดสูงสุดรอบ 4 เดือน +USD24.30 ปิดที่ USD1,552.40/ออนซ์ จากการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย

ประเด็นสำคัญ

- Fund Flow: สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังซื้อต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ นักลงทุนต่างชาติกลับมามีเงินทุนไหลออก 6 ชาติเอเชีย ไม่รวมญี่ปุ่น –USD39mn (Vs สัปดาห์ก่อนหน้า +USD683mn) โดยขายทุกตลาด ยกเว้นอินโดนีเซีย ส่วนตลาดหุ้นไทยถูกขายต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 9 รอบ 10 สัปดาห์ จำนวน –USD39mn (Vs สัปดาห์ก่อนหน้า -USD29mn) ส่วนทั้งปี 2019 ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยถูกขายสุทธิ ทาให้ YTD ขายสะสมสุทธิ –USD1,452mn

- Geopolitical Risk: ผลกระทบจากผู้นำสูงสุดอิหร่าน ประกาศพร้อมตอบโต้สหรัฐฯ หลังจากบุคคลสาคัญของอิหร่าน คือ Soleimani เสียชีวิตจากการถูกกองทัพสหรัฐฯ โจมตีทางอากาศที่ท่าอากาศยานฯ กรุงแบกแดด อิรัก เมื่อเช้าวันศุกร์ ส่งผลกระทบ เชิงบวกต่อราคาน้ำมันดิบโลก และเชิงลบต่อตลาดหุ้นโลก เพราะวิตกว่าอิหร่านจะมีการตอบโต้สหรัฐฯ และทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงในตะวันออกกลาง เหมือนกรณีเกิดระเบิดโรงงานน้ำมันของ Saudi Aramco ในเดือน ก.ย. 2019 ที่ผ่านมา ขณะที่ ปธน.ทรัมป์ ทวีตว่า นายพลโซเลมานี สมควรถูกกาจัดมานานหลายปีแล้ว เพราะได้ฆ่าหรือทำให้คนอเมริกันบาดเจ็บหลายพันคนในช่วงที่ผ่านมา

- อิหร่ำน Vs สหรัฐฯ: สื่อ เผยมีขีปนาวุธไม่ทราบที่มาถูกยิงเข้าไปในเขตปลอดภัยใกล้สถานทูตสหรัฐฯ ในอิรัก และอีก 2 ลูก ถูกยิงเข้าไปในฐานทัพอากาศบาลัด ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองทัพสหรัฐฯ โดยเกิดขึ้นหลังจากการจัดพิธีศพให้กับนายพลอิหร่าน โซเลมานี ทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้แนะนำพลเมืองสหรัฐฯ เดินทางออกจากอิรัก เพื่อความปลอดภัย ขณะที่ปธน.ทรัมป์ ขู่เตรียมถล่มสถานที่สำคัญหลายแห่งในอิหร่าน หากมีการแก้แค้น

- สหรัฐฯ: รายงานภาคการผลิตสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. ต่ำกว่าคาด โดย ISM Mfg PMI เดือน ธ.ค. อยู่ที่ 47.2 (Vs คาด 49 และเดือน พ.ย. 48.1) ต่ำสุดรอบกว่า 10 ปี และหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ห้า ส่วน FOMC Minute ชี้กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่าความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ปรับลดลงอย่างมาก แต่กรรมการเฟดหลายรายแสดงความวิตกผลกระทบอัตราดอกเบี้ยต่ำในระยะยาว อาจนำไปสู่ภาวะฟองสบู่ แต่คงสัญญาณดอกเบี้ยระดับนี้ต่อไปตลอดปี 2020

- โรคระบาด: วิตกการระบาดของโรคติดเชื้อในระบบหายใจ (ไวรัสRSV) อาจส่งผลคล้ายกับโรค SAR ในอดีต โดยพบผู้ป่วยต้องสงสัยเป็นโรคปอดบวม (ระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน) 14 รายแล้วในฮ่องกง และรัฐบาลฮ่องกงเตือนไม่ให้ประชาชนที่เดินทางไปจีน ไปเดินตลาดสด ขณะที่สิงคโปร์ พบคนไข้รายแรกเป็นเด็ก อายุ 3 ขวบ หลังจากกลับจากเมืองอู่ฮั่น

กลยุทธ์: Trading Buy โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: ORI PTTEP CK

หุ้นโมเมนตัมบวก: PTG BEAUTY SPRC NWR TAPAC AMA NUSA TFG

หุ้นโมเมนตัมลบ: BDMS KCE TKN BH IMH

Derivatives: แนะถือสถานะ Short USDH20 (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)