ความขัดแย้งตะวันออกกลาง กดดันตลาดและโรงกลั่นระยะสั้น  แต่ไม่นำไปสู่สงครามโลก

ความขัดแย้งตะวันออกกลาง กดดันตลาดและโรงกลั่นระยะสั้น  แต่ไม่นำไปสู่สงครามโลก

ความตึงเครียดในตะวันออกกลางกดดันให้เกิดแรงทำกำไรระยะสั้น

ตลาดหุ้นโลกเผชิญแรงทำกำไรระยะสั้น หลังมีรายงานปฏิบัติการทางอากาศของสหรัฐฯ ในการสังหารกัสเซ็ม โซไลมานี นายพลและผู้นำระดับสูงของอิหร่าน ส่งผลให้ความตึงเครียดและความกังวลในตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น ขณะที่อิหร่านมีประชาชนเข้าร่วมไว้อาลัยการเสียชีวิตจำนวนมาก และมีการชักธงแดงขึ้นสู่ยอดสุเหร่าศักดิ์สิทธิ์ “จามคารานซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงการประกาศแก้แค้น ส่งผลลบแต่หุ้นและสินทรัพย์เสี่ยง แต่บวกต่อสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นทองคำ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นทดสอบ 70 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล

อาจมีการตอบโต้จากทางอิหร่าน แต่เราไม่คาดจะนำไปสู่สงครามโลก มีรายงานเกี่ยวกับการยิงขีปนาวุธตกลงบริเวณ Green Zone ใกล้สถานฑูต และฐานทัพสหรัฐฯ ในอิรัก ซึ่งถูกมองเป็นการตอบโต้จากอิหร่าน และอาจมีมาตรการทางทหารระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านอีกระยะ วมถึงคำขู่เกี่ยวกับการปิดช่องแคบฮอร์มุทช์ที่เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันสำคัญออกจากตะวันออกกลาง อย่างไรก็ตามเราประเมินจะไม่นำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 เนื่องจาก 1) ความห่างชั้นของเทคโนโลยีและอำนาจทางการทหารของทั้งคู่ 2) สถานะของอิหร่านซึ่งชนส่วนใหญ่รับถือนิกาย ชีอะห์ซึ่งเป็นมุสลิมส่วนน้อยของโลก (15% เป็นชีอะห์ ส่วนใหญ่ 85% เป็นสุหนี่) การเข้าสู่สงครามใหญ่จะส่งผลต่อดุลดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญ 3) สถานะทางเศรษฐกิจ การเงิน และความพร้อม

ทองคำมีโอกาสปรับขึ้นเด่น ขณะที่กลุ่มโรงกลั่นอาจปรับลง แต่เป็นโอกาสซื้อ เราคาดทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นโดดเด่นในฐานะป้องกันความเสี่ยงในช่วงที่ความยัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical risk) สูงขึ้น เราคาดสถานการณ์ความขัดแย้งดังกล่าวจะไม่กระทบต่อมุมมองการลงทุนที่อิงการฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลกอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น และความกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบที่เป็นวัตถุดิบสำคัญของโรงกลั่น (ส่วนใหญ่ใช้น้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง 60-65%) อาจทำให้เกิดแรงทำกำไรระยะสั้น ซึ่งจะเป็นโอกาสซื้อและทยอยสะสมที่ดี

ธีมการลงทุน เน้นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว มีทิศทางกำไรในที่ดีขึ้น และซื้อขายด้วยมูลค่าที่ไม่แพงจนเกินไป ในกลุ่มโรงกลั่น พลังงานต้นน้ำ ท่องเที่ยว โดยเราชอบ SPRC, TOP, PTT, PTTEP, MINT, ERW และ BBL ขณะที่ในกลุ่มหุ้นเล็ก เราชอบ THRE, VNT, ACE และ VL

ภาพรวมกลยุทธ์ ระยะสั้นมีโอกาสเผชิญแรงทำกำไรและเคลื่อนไหวในกรอบ 1580-1595 จุด ยังคงมุมมองบวกในช่วงต้นปีจากภาพเศรษฐกิจโลกที่เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัว ให้น้ำหนักการถือครองหุ้นกลุ่ม Global-Cyclical มากกว่า Domestic Plays // หุ้นแนะนำวันนี้ PTT, CPF /เก็งกำไร TVO* (เป้า 30, ตัดขาดทุน 27.25), เก็งกำไร VL* (เป้า 1.60, ตัดขาดทุน 1.40)

แนวรับ 1588 จุด / แนวต้าน : 1605-1620 สัดส่วน : เงินสด 30% : พอร์ตหุ้น 70%

ประเด็นการลงทุน

น้ำมันพุ่งต่อ 1.3% – ราคาน้ำมันพุ่งต่อ 1.3% หลังสหรัฐฯ เตือน อิหร่านอาจใช้ขีปนาวุธโจมตีพื้นที่ใกล้ฐานทัพทหารและแหล่งน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย

ISM PMI ต่ำสุดในรอบ 10 ปี – ISM รายงาน ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. ปรับตัวลงสู่ระดับ 47.2 ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 49.0 โดยเป็นการหดตัวเป็นเดือนที่ 5 ต่ำสุดในรอบ 10 ปี

ค่าระวางเรือ – ค่าระวางเรือ ปิดที่ 907.00 ลดลง 69 จุด หรือ -7.07%

 

ประเด็นติดตาม: 7 ม.ค. ตัวเลขเงินเฟ้อยุโรป เดือน ธ.ค./ ดุลการค้าสหรัฐฯ เดือน พ.ย., 10 ม.ค. ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ / 15 ม.ค. กำหนดการณ์ทรัมป์เซ็นต์ลงนามข้อตกลงการค้าเฟสแรก

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)