'ผบ.ตร.' สั่งเข้มสถานที่สำคัญ กรณีขัดแย้งสหรัฐ - อิหร่าน

'ผบ.ตร.' สั่งเข้มสถานที่สำคัญ กรณีขัดแย้งสหรัฐ - อิหร่าน

"จักรทิพย์" ได้มีคำสั่งให้ตำรวจหลายหน่วยประสานกำลังกันดูแลความมั่นคงและรักษาความปลอดภัยในสถานที่ที่สำคัญต่อกรณีความขัดแย้งของประเทศสหรัฐอเมริกา กับ อิหร่าน

กรณีสหรัฐอเมริกา กับ อิหร่าน เกิดความขัดแย้งกันระหว่างประเทศ จนทำให้ทั่วโลกจับตาว่าจะเกิดสงครามครั้งใหญ่หรือไม่

ล่าสุดวันนี้ (6 ม.ค. 63) ในส่วนความปลอดภัยและมั่นคงในประเทศไทย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มีการสั่งให้ตำรวจทุกหน่วย อาทิ ตำรวจสันติบาล ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กองบังคับกองการต่างประเทศ เฝ้าติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด ในการเฝ้าระวังและสืบสวนหาข่าว ในพื้นที่สำคัญ เช่นสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล ประจำประเทศไทย โบสถ์ มัสยิด และจุดล่อแหลมต่าง ๆ ประกอบกับทำการบูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางการข่าวและป้องกันเหตุแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้น กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการในการป้องกันและการรักษาความปลอดภัยรองรับนั้นเป็นไปอย่างอย่างเข้มงวด และเพิ่มความเข้มของเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ร่วมกับ ตำรวจที่รับผิดชอบในพื้นที่ ในการจัดกำลังไปตรวจสอบ ดูแล สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลต่างๆ ในประเทศไทย รวมทั้งโบสถ์ มัสยิด และจุดล่อแหลมต่าง ๆ อย่างใกล้ชิดเต็มที่

อ่านข่าว-ตร.คุมเข้มสถานที่สำคัญ ป้องกันเหตุจากความขัดแย้ง

ด้าน พล.ต.ตสามารถ ศรีสิริวิบูลย์ชัย ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เปิดเผยว่า สถานเอกอัครราชทูตอิหร่าน ตั้งบนพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ และสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ตั้งบนพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี ซึ่งทั้ง 2 แห่งเป็นในความรับผิดชอบของ กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ซึ่งที่ผ่านมาทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบังคับการตำรวจนครบาล ได้มีคำสั่งทุกหน่วยงานทั้งทางตำรวจ บก.น.5 ตำรวจสันติบาล ตำรวจบก.สปพ. ให้เพิ่มการดูแล รักษาความปลอดภัย สถานทูต บ้านพักของท่านทูต ตลอดจนบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้อง

โดยหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางสถานทูต ทั้ง 2 ก็ยังไม่ได้มีการร้องขออะไรเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามก็มีการประสานงานกันตลอดถ้าหากมีข้อกังวลอะไร ทางตำรวจยินดีที่จะสนับสนุนทันที ซึ่งประเทศไทยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องการขัดแย้ง แต่ที่ตั้งของสถานทูตอยู่ในประเทศไทย จึงต้องดูแลความปลอดอย่างเข้มข้นเต็มที่ขึ้น เนื่องจากถือเป็นบุคคลสำคัญ โดยไม่ต้องมีการร้องขอแต่อย่างใด เรียกได้ว่าเราทำตามหน้าที่ ซึ่งจะมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกำลัง ตลอด 24 ชั่วโมง

นอกจากนี้ต้องให้ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน หาข่าวเฝ้าระวัง หากมีบุคคลที่มาแอบซ้อนตัวอยู่ เพื่อจะก่อการณ์อะไรก็ตาม จะต้องทำการสืบสวนให้พบให้ได้ ซึ่งประเทศไทย จะต้องไม่สามารถเป็นสถานที่กลุ่มไม่หวังดีมาก่อเหตุอะไรก็ได้ ซึ่งขณะนี้เป็นไปตามปกติ ยังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง