ป.ป.ส. แนะแจ้งเบาะแสผู้เสพ เพื่อนำตัวเข้าบำบัดก่อนมีแนวโน้มก่อเหตุรุนแรง

ป.ป.ส. แนะแจ้งเบาะแสผู้เสพ เพื่อนำตัวเข้าบำบัดก่อนมีแนวโน้มก่อเหตุรุนแรง

ป.ป.ส. เผยประชาชนร่วมมือแจ้งเบาะแส จนสามารถนำผู้เสพผู้ติดยาเสพติดเข้ารับการบำบัดรักษาก่อนมีแนวโน้มก่อเหตุรุนแรงมากขึ้น

เมื่อวันที่ 5 ม.ค.63 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินการด้านการบำบัดรักษายาเสพติด ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2562 มีการนำตัวผู้เสพผู้ติดยาเสพติด เข้ารับการบำบัดรักษาแล้วทั้งสิ้น จำนวน 26,666 ราย ซึ่งจากจำนวนผู้ข้ารับการบำบัดฯ ในห้วงดังกล่าว ส่วนหนึ่งเป็นการดำเนินการต่อข้อร้องเรียนของประชาชน ผ่านสายด่วน ป.ป.ส. 1386 จำนวน 45 เรื่องร้องเรียน แบ่งเป็น การขอให้นำตัวเข้าบำบัดรักษา จำนวน 20 ราย ดำเนินการแล้ว จำนวน 12 ราย และการขอให้นำตัวผู้คลุ้มคลั่งไปบำบัดทันที จำนวน 25 ราย ดำเนินการแล้ว จำนวน 20 ราย ซึ่งยังมีเรื่องร้องเรียนคงเหลือ 13 เรื่อง ที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง และจะเร่งดำเนินการนำตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาอย่างถูกต้องต่อไป

ด้านนายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยว่า นอกจากข่าวสารที่ปรากฏว่ามีผู้เสพยาเสพติดก่อความรุนแรงบ่อยครั้ง ยังพบว่าสถิติในระบบบำบัดรักษา ผู้เข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดที่เป็นกลุ่มเสี่ยงก่อความรุนแรงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีผู้เข้ารับการบำบัดรักษายาเสพติดที่ใช้ยารักษาโรคจิตเวชร่วม จำนวนเฉลี่ย 8,800 คนต่อปี ทางที่ดีที่สุดของการแก้ไขปัญหาต้องเริ่มตั้งแต่การป้องกันก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง ซึ่งผู้ใกล้ชิด ครอบครัว ผู้นำชุมชน สามารถมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังได้ เช่น หากพบผู้ใช้ยาเสพติดที่มีอาการทางจิต หรือ มีความเสี่ยงต่อการก่อความรุนแรง ให้รีบนำตัวเข้ารับการบำบัดรักษาโดยด่วน หรือแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล ระงับเหตุ และส่งต่อผู้ป่วยเข้ารับการรักษาตามแนวทางที่กำหนด ทั้งนี้ ขั้นตอนการเตรียมการเข้ารับการบำบัดรักษาไม่มีอะไรยุ่งยาก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ครอบครัวและผู้ป่วยต้องมีความตั้งใจและพร้อมที่จะเข้ารับการบำบัดรักษาอย่างจริงจัง อย่าปล่อยให้ผู้เสพมีอาการมากจนเกิดภาวะทางจิตประสาท ซึ่งจะทำให้รักษายากยิ่งขึ้น และเกิดผลกระทบต่อตนเอง ครอบครัว และชุมชนได้

นายนิยม กล่าวว่า ขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกท่านที่เฝ้าระวังปัญหายาเสพติดในพื้นที่ของตน และร่วมแจ้งเบาะแสเข้ามายัง สำนักงาน ป.ป.ส. ผ่านสายด่วน ป.ป.ส. 1386 ทำให้เจ้าหน้าที่มีข้อมูลในการดำเนินการได้อย่างทันท่วงที ซึ่งหน่วยงานภาครัฐฝ่ายเดียวไม่สามารถดำเนินการได้อย่างทั่วถึง จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนร่วมด้วย รัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทุกฝ่ายต้องร่วมดำเนินการ ตลอดจน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานร่วมกันดูแล บำบัดฟื้นฟูผู้ป่วยยาเสพติดให้เป็นไปอย่างมีคุณภาพ พร้อมกับวางแนวทางในการช่วยเหลือด้านต่างๆ เป็นไปตามแนวคิด “ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย” โดยเป้าหมายของการแก้ไขปัญหา ไม่ใช่เพียงแค่การบำบัดรักษาผู้เสพผู้ติดยาเสพติดเท่านั้น แต่เป้าหมายสูงสุดคือการลดผลกระทบของสังคม ลดปัญหาในเชิงสุขภาพ และการให้โอกาสผู้ที่หลงผิดได้กลับคืนสู่สังคมอย่างปกติสุข

157822390590