'หมอชลน่าน' ชี้อภิปรายหวังเปิดแผลทุจริต 'บิ๊กตู่'

'หมอชลน่าน' ชี้อภิปรายหวังเปิดแผลทุจริต 'บิ๊กตู่'

“หมอชลน่าน” ชี้อภิปรายหวังเปิดแผลทุจริต “บิ๊กตู่” อัด “รัฐบาล” อย่าร้อนตัวสร้างวาทกรรมหวังทำสังคมสับสน

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า กรณีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านเตรียมยื่นต่อรัฐสภาเพื่อขอเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นการทำหน้าที่ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ไม่เกี่ยวกับเรื่องของเวลา การที่พลเอกประยุทธ์บอกว่ารัฐบาลนี้เพิ่งบริหารประเทศเพียงได้ 5 เดือนเท่านั้น เป็นการพูดเพื่อหาทางออกให้ตัวเอง หวังทำลายความน่าเชื่อถือของฝ่ายค้าน พร้อมประกาศชัดว่าเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นไม่เกี่ยวกับรัฐบาลนี้ เป็นการพูดเพื่อสร้างความชอบธรรม หวังสร้างเรื่องราวให้กลุ่มกองเชียร์รัฐบาลนำไปขยายความต่อ เป็นอาการร้อนตัวของพลเอกประยุทธ์ ออกอาการดิ้นเพื่อเอาตัวรอด หวังสร้างความสับสนให้ประชาชน



การอภิปรายไม่ไว้วางใจ เวลาในการเข้าสู่ตำแหน่งและการบริหารประเทศนานเท่าไหร่ ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่จะยื่นไม่ไว้วางใจ การอภิปรายจะยื่นหลังจากเข้าบริหารประเทศ 1 เดือน หรือ 2 เดือน ก็ได้หากพบว่ารัฐบาลเข้าสู่ตำแหน่งด้วยความไม่ชอบ และมีพฤติกรรมที่ส่อไปในทางทุจริต หรือ มีหลักฐานชัดเจนว่า มีการกระทำที่อาจจะส่อไปในทางทุจริตประพฤติมิชอบ รวมไปถึงไม่มีความรู้ความสามารถ ที่พอเพียงบริหารราชการแผ่นดิน ส่อว่าจะเป็นอันตรายก่อให้เกิดวิกฤติกับประเทศหากให้บริหารประเทศต่อไป ก็สามารถขออภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ไม่เกี่ยวกับเรื่องของเวลา ในต่างประเทศเขาเปลี่ยนรัฐบาลทุก 6 เดือนหากเห็นว่าผู้นำไม่มีความสามารถพอ

นายแพทย์ ชลน่าน กล่าวด้วยว่า ในส่วนของที่พลเอกประยุทธ์ออกมาตีกันการนำเรื่องอดีตมาอภิปรายนั้น อาจจะเกิดจากความกังวลใจเกี่ยวกับอดีตของพลเอกประยุทธ์เอง เพราะเรื่องในอดีตก็สามารถนำมาเป็นหลักฐานอ้างอิงได้ เพราะรัฐบาลชุดนี้กับรัฐบาลในปัจจุบันเป็นรัฐบาลชุดเดียวกัน รัฐมนตรีก็คนเดิมๆ ดังนั้นผลงาน 5 ปีที่ผ่านมาก็เห็นชัดว่าประเทศชาติวิกฤติแค่ไหน หากให้อยู่ในตำแหน่งต่อไปก็สุ่มเสี่ยงจะพาประเทศไปสู่จุดวิกฤติหนักกว่านี้ อันนี้เป็นเหตุผลในการย้อนพฤติกรรมในอดีต ไม่ว่าจะเป็นการอำนาจมิชอบ การใช้มาตร44 โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา หรือ การใช้งบประมาณผ่านองค์การทหารผ่านศึกที่ส่อไปในทางทุจริตก็เป็นส่วนหนึ่งจากการทำงานของรัฐบาล

“การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้คงไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ เพราะรัฐบาลใช้วิธีการมัดคอพรรคร่วมไว้รัฐบาล ไม่มีทางที่พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลจะแตกแถวออกมา ดังนั้นเป้าหมายพรรคร่วมฝ่ายค้านหวังจะเปิดแผลที่เน่าของรัฐบาลออกมาฟ้องประชาชน ถึงพฤติกรรมของรัฐบาลที่บริหารประเทศไปในทิศทางที่ไม่โปร่งใส และส่อไปในทางทุจริต ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินอนาคตนของรัฐบาลนี้ ว่าหากให้อยู่ในตำแหน่ง แล้วส่งผลให้เกิดผลเสียหายกับประเทศหรือไม่”