เบื้องลึก IMH ต่ำจอง เคาะราคาแพง โบรกแบกรับเข้าพอร์ตอื้อ

เบื้องลึก IMH ต่ำจอง เคาะราคาแพง โบรกแบกรับเข้าพอร์ตอื้อ

การเคลื่อนไหวของหุ้นน้องใหม่อย่าง บริษัท โรงพยาบาลอินเตอร์เมดิคัล แคร์ แอนด์ แล็บ จำกัด (มหาชน) หรือ IMH ซึ่งเป็นหุ้นที่เสนอขายให้ประชาชนทั่วไปครั้งแรก(ไอพีโอ) ตัวล่าสุด

และเป็นหุ้นไอพีโอตัวสุดท้ายของปี2562 เพราะเพิ่งเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ  (MAI) วันแรกเมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2562 ที่ผ่านมา 

 ปรากฎว่า ตั้งแต่เข้าทำการซื้อขายในตลาดเอ็มเอไอ จนถึงปัจจุบัน ราคาหุ้นยังไม่เคยยืนเหนือราคาไอพีโอเลย ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 ม.ค.2563 หุ้น IMH ปิดตลาดที่ระดับ 3.96 บาท ลดลง 0.36 บาท หรือ -8.33%  โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวม 28.26 ล้านบาท

หุ้น IMH ถือว่าทำผลงานได้ "ย่ำแย่" ตั้งแต่วันแรกที่เข้าซื้อขายในตลาดเอ็มเอไอ โดยเปิดการซื้อขายที่ระดับ 5.70 บาท ปรับลดลงเมื่อเทียบกับราคาไอพีโอที่ 6.00 บาท หรือลดลงราว 5% หลังจากนั้นก็มีแรงขายออกมาต่อเนื่อง จนราคาหุ้นปิดตลาดในการซื้อขายวันแรกที่ 4.72 บาท ลดลง 21.33% ต่อจากนั้นมา ราคาหุ้นยังคงไหลลงต่อเนื่องราวกับ "ไม่มีแนวรับ" 

ประเด็นที่น่าสนใจสำหรับหุ้นตัวนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องการ “ตั้งราคา”  เสนอขายไอพีโอ ซึ่งหลายคนมองว่า “แพง”  เพราะราคาหุ้นที่เสนอขาย 6.00 บาท เทียบอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น(พี/อี) อยู่ที่ 119.35 เท่า ในขณะที่ผลการดำเนินงาน โดยเฉพาะ“กำไรสุทธิ” ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่า “ลดลงต่อเนื่อง”  โดยในปี 2559 มีกำไรสุทธิ 38 ล้านบาท ถัดมาปี 2560 มีกำไรสุทธิ 15 ล้านบาท และปี 2561 มีกำไรสุทธิเพียง 14 ล้านบาท

ก่อนที่ IMH จะเข้าจดทะเบียนในตลาดเอ็มเอไอ มีหลายประเด็นที่น่าสนใจ เพราะผิดแปลกไปจากภาวะปกติ โดย "บริษัทหลักทรัพย์(บล.) โกลเบล็ก"  ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ  "บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด"  ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน(เอฟเอ) ของ IMH  "ไม่ได้เป็นแกนนำ"  ในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น (ลีดอันเดอร์ไรท์หุ้น) ของหุ้นตัวนี้ โดยเป็นเพียงผู้ร่วมขายหุ้นเท่านั้น ซึ่งผู้ที่รับหน้าที่เป็นลีดอันเดอร์ไรเตอร์ คือ  "บล.เอเชีย เวลท์" 

แหล่งข่าววงการตลาดทุน เปิดเผยว่า สาเหตุที่ บล.โกลเบล็ก ไม่ได้เป็นแกนนำในการขายหุ้น IMH ทั้งที่เป็น “เอฟเอ” ให้กับหุ้นดังกล่าว เนื่องจากผู้บริหารของ IMH พอใจการตั้งราคาไอพีโอของ บล. เอเชีย เวลท์ ที่เสนอราคา "สูงกว่า" บล.โกลเบล็ก เพราะราคาจองซื้อที่ บล.โกลเบล็ก เสนอมานั้น ประเมินว่าควรมีส่วนลดให้กับผู้ลงทุนมากว่านี้ เพราะมองว่าโปรเจ็คในอนาคตอาจต้องใช้เวลาพอสมควร

 ขณะที่การกระจายหุ้นให้กับบล.โกลเบล็ก ในฐานะผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายจำนวน 9 ล้านกว่าหุ้นนั้น ได้รับการยืนยันมาว่า "มีการขายหมดเกลี้ยง"  เพราะมีกองทุนของสถาบันรายหนึ่งที่เข้ามาซื้อหุ้นไอพีโอดังกล่าว และบางส่วนมีการกระจายให้กับนักลงทุนรายย่อยด้วย

อย่างไรก็ตามมองว่า ราคาหุ้น IMH ที่ต่ำกว่าราคาจอง เพราะว่าที่ผ่านมาภาวะตลาดหุ้นไอพีโอไม่ดีอยู่แล้ว ประกอบกับเมื่อนักลงทุนมองว่าหุ้น IMH มีราคาค่อนข้างสูงและไม่มีส่วนลดให้กับนักลงทุนมากนัก จึงอาจเป็นเหตุผลให้ราคาหุ้นถูกเทขายออกมาอย่างที่เห็น  โดยเชื่อว่าเรื่องการตั้งราคาขายไอพีโอ ก็ต้องไปถามลีดอันเดอร์ไรท์ว่าเป็นเพราะอะไร ถึงมีการตั้งระดับราคาดังกล่าว

ด้าน  "กอบเกียรติ บุญธีรวร"  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเชีย เวลท์ (AWS) ในฐานะแกนนำการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น IMH กล่าวยอมรับว่า การจัดสรรหุ้น IMH ที่เสนอขายทั้งหมด 55 ล้านหุ้น มีส่วนที่ลูกค้าจองซื้อไม่ครบ ทำให้มีหุ้นเหลือจากการขายต้องโอนเข้ามาในพอร์ตของบริษัทบ้าง ซึ่งการลงทุนก็ต้องดูนโยบายและทิศทางธุรกิจของ IMH ว่ายังมีแนวโน้มการเติบโตดีหรือไม่  ซึ่งหากการเติบโตดีก็อาจถือต่อเนื่อง

ขณะที่ราคาหุ้น IMH ที่ยังคงต่ำกว่าราคาจองซื้อไอพีโอนั้น  “กอบเกียรติ” บอกว่าโดยส่วนตัวไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร เพราะไม่สามารถคาดเดาการลงทุนของนักลงทุนรายย่อยได้ แต่เชื่อว่าส่วนหนึ่งเป็นไปตามทิศทางภาวะตลาด เพราะวานนี้ (3 ม.ค.) ตลาดเพิ่งเปิดทำการวันแรกของปีใหม่ ขณะที่คาดว่าหากตลาดและผลประกอบการของบริษัทออกมาดี ราคาหุ้นก็น่าจะกลับมาปรับตัวขึ้นได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้เมื่อไหร่

“ยอมรับยังมีส่วนที่ลูกค้าไม่จองซื้อ จึงทำให้ยังมีชื่อบริษัทอยู่ในส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ แต่ยืนยันว่าที่ผ่านมายังไม่ได้เทขายหุ้นออกไป ซึ่งราคาหุ้นที่ต่ำจอง อาจเป็นเพราะนักลงทุนบางกลุ่มขายออกไป ส่วนการจะขายหรือไม่ขายหุ้นออกมานั้น ก็ต้องดูทั้งราคาหุ้นและทิศทางธุรกิจก่อน ซึ่งหากดีก็อาจถือต่อได้"

ทั้งนี้ ปัจจุบัน บล.เอเชีย เวลธ์ ถือหุ้น IMH รวม 11,7 ล้านหุ้น คิดเป็น 5.47%  เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับที่ 4 ขณะที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ 3อันดับ ประกอบด้วย  1.นายสิทธิวัตน์ กำกัดวงษ์  33.54% 2. นางสาว ปรมาภรณ์ ปวโรจน์กิจ14.88%  และ3.นายเสถียร พรยืนยง 13.4%