รฟท.จ่อชงบอร์ดปลดล็อคประมูล "บางซื่อ" แปลงเอ

นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการประมูลพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ สถานีกลางบางซื่อ แปลงเอ ขนาดที่ดิน 32 ไร่ มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท โดยระบุว่า ต้นปี 2563 นี้ ร.ฟ.ท.จะเสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) พิจารณานำโครงการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ แปลงเอ มาเปิดประมูล โดยไม่ต้องเข้าเงื่อนไขเอกชนร่วมลงทุนโครงการรัฐ (พีพีพี) ปี 2556

“โครงการนี้เราเคยเปิดประมูลมาครั้งหนึ่งแล้ว ก็พบว่าไม่มีเอกชนสนใจยื่นข้อเสนอ อาจเพราะว่าแปลงนี้เป็นที่ดินไม่สวย มีรางรถไฟคร่อมอยู่ จะพัฒนาโครงการก็ค่อนข้างยาก ทำให้เราต้องกลับมาปรับปรุงทีโออาร์ให้จูงใจเอกชนมากขึ้น"

 ขณะที่ร.ฟ.ท.มีแนวคิดที่จะเสนอขอจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้การรถไฟฯ สามารถเปิดประมูลเองได้เลย โดยไม่ต้องเข้าเงื่อนไขพีพีพีปี 2556

สำหรับสาเหตุที่ ร.ฟ.ท.พิจารณาถึงการขอพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ เพื่อไม่นำโครงการเข้าเงื่อนไขพีพีพีปี 2556 เพราะ ร.ฟ.ท.เล็งเห็นว่าควรจะผลักดันให้เข้าเงื่อนไขพีพีพีปี 2562 ซึ่งเป็นกฎหมายร่วมทุนฉบับใหม่มากกว่า เนื่องจากตามเงื่อนไขกฎหมายใหม่ กำหนดว่าการร่วมทุนพื้นที่เชิงพาณิชย์ หน่วยงานเจ้าของพื้นที่สามารถประมูลโดยไม่ต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการพีพีพี ซึ่งหากสามารถดำเนินการเช่นนี้ได้ ก็จะทำให้การประมูลโครงการคล่องตัวมากขึ้น

นายวรวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า เนื่องจากการเปิดประมูลในครั้งที่ผ่านมา ไม่มีเอกชนสนใจเข้าร่วม ทำให้ ร.ฟ.ท.ต้องนำทีโออาร์มาปรับปรุง และหากเป็นเช่นนี้อีกหลายครั้ง เมื่อปรับปรุงทีโออาร์แล้วเสร็จ ร.ฟ.ท.ก็จะต้องรายงานให้คณะกรรมการพีพีพี และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาทุกครั้ง ซึ่งมีขั้นตอนมากและอาจต้องใช้เวลา แต่หากนำโครงการเข้าข่ายพีพีพี

ปี 2562 จะทำให้ ร.ฟ.ท.มีอำนาจในการประมูลมากขึ้น จูงใจเอกชนร่วมลงทุน

 “ถ้า สคร.พิจารณาว่าโครงการแปลงเอ เข้าข่ายใช้พีพีพีปี 2562 เราก็เอาร่างทีโออาร์เสนอเข้าบอร์ดการรถไฟฯ ให้พิจารณาได้เลย หากบอร์ดเห็นชอบก็สามารถเปิดประกวดราคาได้ เพราะหลักเกณฑ์ใหม่ไม่ต้องผ่านขั้นตอนจากหน่วยงานใดแล้ว ดังนั้นถ้าเป็นลักษณะนี้ ก็คาดว่าไม่เกิดไตรมาส 1 ของปีหน้า น่าจะได้ความชัดเจนของการประมูลจัดหาเอกชนร่วมลงทุน”