'กสิกร' เจาะสินเชื่อบ้าน กลุ่ม 'ฟรีแลนซ์'

นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน)  (KBANK)  เปิดเผยว่า  แนวโน้มการเติบโตสินเชื่อบ้านปี 2563  ธนาคารคาดว่าจะเติบโตได้ราว 10%  จากปีก่อน โดยเน้นการขยายฐานลูกค้าใหม่มากขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตด้านสินเชื่อ และเปิดโอกาสใหม่ๆให้กับธนาคารในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น

 โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพอิสระ ฟรีแลนซ์ นักเขียนอิสระที่ปัจจุบันมีกว่า 2.5 ล้านคน และกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่มีข้อมูลการเดินบัญชี และเป็นกลุ่มที่เข้าถึงสินเชื่อบ้านค่อนข้างยากในช่วงที่ผ่านมา อีกทั้ง กลุ่มอาชีพอิสระเหล่านี้ ถือเป็นตลาดที่มีแข่งขันการปล่อยสินเชื่อยังมีค่อนข้างน้อย เนื่องจากธนาคารส่วนใหญ่มักแข่งขันรุนแรงในกลุ่มลูกค้าที่ได้รับเงินเดือนประจำเป็นส่วนใหญ่

อย่างไรก็ตาม การที่ธนาคารจะเข้าถึงกลุ่มอาชีพอิสระได้มากขึ้น จำเป็นต้องมีเครื่องมือในการวัดความเสี่ยงที่แม่นยำมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ และลดโอกาสการเกิดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอลในอนาคต เช่นการนำ DATA และเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ เพื่อให้ธนาคารสามารถมอนิเตอร์รายได้ของลูกค้ากลุ่มนี้ได้แม่นยำมากขึ้น

เขากล่าวว่า กลุ่มแรกที่ธนาคารจะเข้าไปเจาะมากขึ้น จะเริ่มจากลูกค้าอาชีพอิสระที่มีการทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคารก่อนเป็นกลุ่มแรก  ทั้งธุรกรรมการโอนเงิน ถอนเงิน และธุรกรรมอื่นๆ  เนื่องจากธนาคารมีข้อมูลลูกค้ากลุ่มนี้อยู่บางส่วนแล้ว และระยะถัดไปจะขยายไปสู่อาชีพอิสระที่ไม่ได้เป็นลูกค้าธนาคารต่อไป

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา แบงก์ไม่ได้เน้นในการเข้าไปเจาะกลุ่มลูกค้าฟรีแลนซ์ ทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้อยู่ในพอร์ตแบงก์น้อยมาก เพราะเราเข้าไม่ถึง  เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อของกสิกรไทย รวมถึงแบงก์อื่นๆ ในอดีตจะดูจากข้อมูลที่จับต้องได้ เช่น การรับรายได้ผ่านแบงก์ หากเป็นอาชีพอิสระ ผู้ประกอบการต้องมีรายได้ที่ชัดเจน และประกอบธุรกิจมาแล้ว 3ปีเป็นอย่างต่ำ ขณะที่หากเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ส่วนใหญ่ทำธุรกิจไม่เกิน1ปี

 " จะทำอย่างไรให้แบงก์สามารถเข้าถึงกลุ่มนี้ได้มากขึ้น แบงก์ก็ต้องมีข้อมูลกลุ่มนี้ โดยอาศัยเครื่องมือที่มีอยู่ ทำให้เห็นตัวตน เห็นรายได้ลูกค้ามากขึ้น  สามารถจับลูกค้ากลุ่มใหม่ได้ ขณะที่อีกกลุ่มที่แบงก์จะโฟกัสมากขึ้น คือกลุ่มลูกค้าเอสเอ็มอีที่มีความสามารถในการซื้อบ้านในต่างจังหวัด” นายสุรัตน์ กล่าว 

สำหรับสินเชื่อบ้านปี2562 คาดเติบโตเกิน 10% จากช่วง 9เดือน เติบโต 5.9 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16%   จากช่วงเดียวกันของปีก่อน  มียอดคงค้างอยู่ที่ 3.10 แสนล้านบาท  ถือว่าทำได้ดีกว่าตลาด ที่ส่วนใหญ่สินเชื่อบ้านชะลอตัว  ส่วนใหญ่เติบโตจากสินเชื่อบ้านในต่างจังหวัด ขณะที่เอ็นพีแอลยังอยู่ในเป้าหมาย จะรักษาระดับไม่เกิน 3.7%  

นายณัฐพล ลือพร้อมชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ( BAY)  กล่าวว่า สำหรับสินเชื่อบ้านทั้งระบบในปี 2563 คาดทรงตัว  หรือเติบโตใกล้เคียงกับปี 2562 ที่ผ่านมา ที่การปล่อยสินเชื่อใหม่อยู่ที่ระดับ 6.3 แสนล้านบาท จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ทำให้การเติบโตสินเชื่ออาจไม่ได้เติบโตมากนักเหมือนช่วงปี 2561 ที่ผ่านมา ที่สินเชื่อปล่อยใหม่ทำได้ถึง 7.03 แสนล้านบาท

ขณะที่เอ็นพีแอลของสินเชื่อบ้าน ยอมรับว่า มีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันอยู่ที่ระดับกว่า2 % แต่ยังต่ำกว่าเอ็นพีแอลสินเชื่อบ้านของทั้งระบบ ที่มีทิศทางปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเอ็นพีแอลของทั้งระบบไตรมาส 3 ปี 2562 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.5 % จากไตรมาส 2 ที่ 3.3 % เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากหลายอุตสาหกรรมที่มีการชะลอกำลังการผลิต จากผลกระทบภาคส่งออก ทำให้รายได้ของผู้กู้ลดลง และกระทบความสามารถชำระหนี้ในบางช่วง

“ปี 2563 เราคาดว่าสินเชื่อปล่อยใหม่น่าจะใกล้เคียงปีที่ผ่านมา อาจได้ดีมานด์จากต้นปีเข้ามาเพิ่มเล็กน้อย จากแรงกระตุ้นของภาครัฐที่เข้ามาบุ๊คตอนต้นปี แต่อาจทำให้สินเชื่อไม่โตมากนัก เพราะเชื่อว่าเศรษฐกิจอาจต้องรอการฟื้นตัว ดังนั้นปีนี้จึงเป็นปีที่ต้องรักษาฐาน มองว่าไม่ได้เลวร้าย การเติบโตเป็นลักษณะตัวยู  (U)ที่อยู่ระหว่างการพักฐานในปี 2562-2563 และจะกลับมาโตใหม่อย่างมั่นคงอีกครั้งในปี 2564”  นายณัฐพล กล่า่ว