จับตา ‘บาทแข็ง’กดดันส่งออกไทยปี 63 

จับตา ‘บาทแข็ง’กดดันส่งออกไทยปี 63 

เปิดศักราชปี 2563 ก็เจอกับพิษบาทแข็งส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยค่าเงินบาทหลุด 30 บาทต่อดอลลาร์ มาเคลื่อนไหวสู่ระดับ 29.50 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้เอาผู้ส่งออกสะดุ้งกับเป็นแถวๆ เพราะพิษบาทแข็งส่งผลต่อการส่งออกของไทยโดยตรง 

นักวิเคราะห์หลายคนเห็นว่า ค่าเงินบาทในปี 2563 มีโอกาสที่จะแข็งค่าขึ้นไปอยู่ที่ระดับถึง 28.70 บาทต่อดอลลาร์ 

ในปีที่ผ่านมาการส่งออกของไทยโดนพิษเงินบาทซ้ำเติมนอกเหนือจากผลกระทบสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นักวิชาการและภาคเอกชนต่างออกมาเป็นเสียงเดียวว่า การส่งออกไทยปี 2562 จะติดลบอย่างแน่นอน ซึ่งถือว่าเป็นการติดลบครั้งแรกในรอบ 4 ปี

ขณะที่ปี 2563 ภาคเอกชนคาดการณ์ว่า การส่งออกน่าจะขยายตัว 0-1 % โดยยังมีปัจจัยสำคัญมาจากปัญหาสงครามการค้า แม้ว่าการเจรจาระหว่างสหรัฐและจีนในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมาจะบรรลุข้อตกลงจะทำให้เพิ่มโอกาสการส่งออกสินค้าได้มากก็ตาม ขณะที่ปัญหาค่าเงินบาทยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ภาคเอกชนมีความกังวล เพราะทำให้ความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกลดลงไม่สามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้

ล่าสุดสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.)ต้องนัดถกธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ในวันที่ 10 ม.ค.ให้เร่งแก้ปัญหาก่อนที่ค่าเงินบาทจะแข็งค่ามากไปกว่านี้ ซึี่งต้องจับตาว่า จะมีแนวทางอย่างไรออกมาบ้างเพื่อทำให้ค่าเงิินบาทแข็งค่าขึ้น   นอกจากปัญหาค่าเงินบาทแล้วยังมีความไม่แน่นอนของการถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป(อียู)ของอังกฤษหรือเบรทซิท เพราะตลาดอียูและตลาดอังกฤษถือเป็นตลาดหลักในการส่งออกของไทยตลาดหนึ่ง รวมทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

ด้านกระทรวงพาณิชย์ จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่วางเป้าหมายการส่งออกในปี 2563 แต่ก็ยอมรับว่า 3 % ที่รัฐบาลต้องการผลักดันเพื่อให้เศรษฐกิจไทยปี 63 ขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ไม่ต่ำกว่า 2.8% เป็นไปได้ยากท่ามกลางปัญหาที่รุมเร้าการส่งออกของไทย แต่ก็ยังมีความหวังว่า เศรษฐกิจโลกในปีนี้จะฟื้นตัว

เบื้องต้นจะมีการประชุมร่วมคณะกรรมการภาครัฐและเอกชน หรือกรอ.พาณิชย์  เพื่ออหาแนวทางที่จะส่งเสริมและผลักดันการส่งออกกลางเดือนนี้  พร้อมกับสั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทำการสำรวจโอกาสทางการตลาดให้กับสินค้าไทยและนำผลมาวิเคราะห์ในการประชุมเดือน ก.พ.เพื่อวางเป้าหมายการส่งออกปี 2563 อย่างเป็นทางการ

157805412144

ส่วนแผนผลักดันการส่งออกสินค้าและบริการไทยนั้นได้วางแผนเจาะตลาดเชิงลึกตามนโยบายของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทั้งตลาดเก่าเดิม เช่น จีน ญี่ปุ่น เยอรมนี อังกฤษ สหภาพยุโรป ตลาดใหม่ เช่น อินเดีย ตุรกี ศรีลังกา บังคลาเทศ แอฟริกาใต้ ตลาดฟื้นฟู เช่น ตะวันออกกลาง และตลาดCLMVเช่น กัมพูชา ซึ่งประเทศใหญ่อย่างจีนและอินเดียจะเจาะตลาดลึกเป็นรายมณฑล และรายรัฐ

การส่งอออกไทยปี 2563 ต้องกับปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2562 และยังไม่นับรวมกับปัญหาใหม่ที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างปี จึงถือเป็นโจทย์หินที่ทำให้รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ต้องเหนื่อยต่อไปในการฟันฝ่าปัญหานี้ไปให้ได้เพื่อประคองการส่งออกของไทยให้อยู่ได้ท่ามกลางวิกฤตที่รุมเร้า