นายกฯ ขอเปลี่ยนชื่อ 7 วันอันตราย ชี้ไม่สร้างสรรค์

นายกฯ ขอเปลี่ยนชื่อ 7 วันอันตราย ชี้ไม่สร้างสรรค์

“ประยุทธ์” ขอเปลี่ยนชื่อ "7 วันอันตราย" ชี้ไม่สร้างสรรค์ กำชับลดการศูนย์เสียช่วงเทศกาลทั้งปี วอน จยย.อย่าปาดหน้าแซงขึ้นหน้าไฟแดง หวั่นกระทบกระทั่ง-ไม่เอื้ออาทร

เมื่อวันที่ 2 ม.ค.63 เวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่าอยากให้ยกเป็นกรณีศึกษายอดผู้บาดเจ็บ และศูนย์เสียจากการจราจรช่วงปีใหม่ จะต้องพิจารณาว่าเป็นการเสียชีวิตลักษณะใดรวมถึงช่วงเวลาเพื่อนำไปแก้ไขต่อไป

ทั้งนี้ ในส่วนของหน่วยงานราชการทำเต็มที่แล้วก็เป็นเรื่องของประชาชนที่ต้องระมัดระวังตัวเองด้วย แม้ว่าจากการรายงานยอดการศูนย์เสียจะน้อยลงแต่ตนก็ไม่สบายใจเพราะยังมีผู้เสียชีวิตกว่าร้อยคน หวังว่าในห้องต่อไปเช่นเทศกาลสงกรานต์ จะทำอย่างไรที่จะลดผู้เสียชีวิตลงได้

สำหรับชื่อ 7 วันอันตรายฟังแล้วไม่สร้างสรรค์อยากให้เปลี่ยนเป็น 7 วันเทศกาลแห่งความสุขได้หรือไม่เพื่อให้นึกถึงความสุขและความปลอดภัย เพราะมีผลกระทบทั้งตนเองลูกหลานและค่ารักษาพยาบาล จึงมีความจำเป็นต้องสร้างแรงจูงใจประเภทนี้

พร้อมกันนี้ตนได้ให้แนวคิดเรื่องการทำถนนหนทางหรือการขยายช่องทางจราจรให้มากขึ้นหากมีความเป็นไปได้สามารถสร้างให้เส้นทางใดเสร็จก่อนก็ให้ดำเนินการทันทีรวมถึงการปลูกสร้างขอให้อยู่ห่างไกลจากถนนหลักป้องกันปัญหาในอนาคตหากมีการขยายถนนออกไป 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ได้มีการสรุปผลการดำเนินการจัดงานปีใหม่ในแต่ละพื้นที่ และขอบคุณเจ้าหน้าที่และจิตอาสาที่เข้ามาช่วยกันจำนวนมาก ทำให้การจัดงานปีใหม่เป็นไปด้วยความเรียบร้อยทั้งพื้นที่กทม.และต่างจังหวัด รวมถึงการช่วยกันดูแลปัญหาจราจร

ทั้งนี้ ปัญหาอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เกิดจากถนนสายรองและผู้ที่ศูนย์เสียคือวัยหนุ่มสาว เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงเพราะสถิติการเพิ่มของประชากรน้อยลงการศูนย์เสียคนหนุ่มสาวเท่ากับศูนย์เสียแรงงานข้อย้ำทุกภาคส่วนต้องช่วยกันรัฐบาลทำฝ่ายเดียวไม่ได้ อย่างในพื้นที่กทม.มีผู้ร้องเรียนผู้ใช้รถจักรยานยนต์จำนวนมากกว่ามีการขับรถปาดซ้ายปาดขวาหรือแซงขึ้นมาอยู่ต้นทางไฟแดงทำให้เกิดการกระทบกระทั่งและความไม่เอื้ออาทรต่อกัน เมื่อรถติดไฟแดงรถอยู่ตรงไหนก็ขอให้อยู่ตรงนั้นไม่ต้องพยายามขึ้นมาข้างหน้า