เลขาธิการกสทช.ย้ำชัดคณะกรรมการ5จีไม่ก้าวล่วงอำนาจการทำงาน ไม่เอื้อประโยชน์ฝ่ายใด เพียงแต่มีการกำหนดทิศทางและนโยบายตามพรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นฯ ทำงานเป็นเอกภาพมีวัตถุประสงค์แผนปฏิบัติงานที่ตรงกัน ล่าสุดถก“ดีอีเอส”ยกร่างคำสั่งใหม่ เพื่อวางกรอบแผนงานที่ชัด
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ความคืบหน้าการจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน 5จี ระดับชาติในทุกภาคส่วน ว่า หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเห็นชอบให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน 5จีระดับชาติในทุกภาคส่วน โดยมอบให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาจัดตั้ง ซึ่งหลังจากมีการยกร่างคำสั่ง พบว่า มีความกำกวมที่คาบเกี่ยวกับอำนาจของ กสทช. จึงได้รับการท้วงติงจากหลายฝ่าย เนื่องจากเป็นกังวลว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวจะก้าวล่วงการทำงานของ กสทช. ในการจัดการประมูลคลื่นความถี่
นอกจากนี้ จากเรื่องดังกล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ ตนจึงได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศการสื่อสาร และการโทรคมนาคมวุฒิสภา ถึงการจัดตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าว ซึ่งทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันถึงวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเพื่อต่อยอดการใช้งาน 5จี และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยยืนยันว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวไม่ได้ก้าวล่วงอำนาจหน้าที่ของ กสทช. ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดการประมูลคลื่นความถี่ และ กสทช. เป็นผู้เสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวเอง
“ได้มีการหารือร่วมกันนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดีอีเอส เพื่อปรับปรุงยกร่างคำสั่งใหม่ โดยกำหนดกรอบหน้าที่ของคณะกรรมการให้ชัดเจนขึ้น คือ กำหนดทิศทางนโยบายขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ 5จีของประเทศไทยในส่วนของการต่อยอดการใช้งาน การใช้ประโยชน์ของเทคโนโลยี 5จีภายหลังที่ผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมได้มีการประมูลคลื่นความถี่ และมีการลงทุนขยายโครงข่ายในพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งการกำหนดทิศทางและนโยบายดังกล่าวจะไม่เป็นการเกี่ยวข้องกับอำนาจกน้าที่ในการประมูลคลื่นความถี่ของ กสทช. ตามพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแต่อย่างใด” นายฐากร กล่าว
ทั้งนี้ คณะกรรมการขับเคลื่อน 5จี ระดับชาติในทุกภาคส่วน ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นรองประธานร่วม ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ รวมถึงมีตัวแทนจากสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย, สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ส่วนผู้บริหารของเอกชนให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่จะเป็นอนุกรรมการเท่านั้น