ประชาชนนับพัน ‘รัฐวิคตอเรีย’ อพยพหนีไฟป่าไปอยู่ชายหาด

มีรายงานว่า วันสุดท้ายของปี 2562 กลายเป็นวันที่ออสเตรเลียเผชิญสถานการณ์ไฟป่ารุนแรงที่สุดอีกวันหนึ่ง ตั้งแต่ประสบวิกฤติไฟป่ารุนแรงเป็นเวลาหลายเดือน โดยนักท่องเที่ยวและประชาชนในท้องถิ่นราว 4,000 คน ติดค้างอยู่ที่เมืองมัลลาคูตา ซึ่งเป็นเมืองชายทะเลด้านตะวันออกของรัฐวิคตอเรีย และอีกหลายพื้นที่ต้องหาที่หลบภัยกันตลอดแนวชายฝั่ง 200 กม.ขณะไฟป่าลามเข้าใกล้ทุกขณะ และบางส่วนลงเรืออกทะเล

แจน กิลเบิร์ตส์ ผู้ใช้เฟซบุ๊ค โพสต์ภาพหลายภาพจากพื้นที่ในเมืองมัลลาคูตา โดยกิลเบิร์ตส์บรรยายว่า นี่คือภาพวันสิ้นโลก เมื่อไหร่ฝันร้ายนี้จะจบเสียที

มีรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ( 30 ธ.ค.) อาคารบ้านเรือนหลายสิบแห่งในพื้นที่ถูกเผาวอด และมีผู้สูญหายอย่างน้อย 7 คน ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ และรัฐวิคตอเรีย ขณะไฟป่าไหม้ลามถึงเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่พอสมควรอย่าง เมืองเบทแมนส์ เบย์

สำนักงานดับเพลิงชนบทนิวเซาท์เวลส์ ระบุว่า บางพื้นที่ไฟป่าหนักหนาสาหัส จนส่งหมอกควันหนาทึบและพายุฟ้าคะนองในอากาศแห้งที่เกิดจากเปลวเพลิง รุนแรงมากจนการบินสำรวจทางอากาศและการทิ้งระเบิดน้ำ ต้องระงับไว้ก่อน ขณะที่เมืองมัลลาคูตา ควันจากไฟป่าเปลี่ยนสภาพท้องฟ้ากลางวันกลางเป็นกลางคืน

ขณะที่ทางกาเมืองมัลลาคูตา เตือนก่อนหน้าหลายวันแล้วว่า ให้นักท่องเที่ยวราว 3 หมื่นคนออกจากพื้นที่ แต่อีกหลายพันคนรีรอ จนเวลานี้สายเกินไปที่จะหนี

นอกจากนี้ ทางการเมืองมัลลาคูตา ได้จัดทีมรับสถานการณ์ดูแลนักท่องเที่ยวและประชาชน ราว 4,000 คนบนชายหาด เตรียมพร้อมอพยพทั้งทางทะเลและอากาศหากจำเป็น จะห่วงก็แต่ชุมชนสันโดษกระจัดกระจาย

บนสื่อสังคมออนไลน์ มีการแชร์ภาพแสดงให้เห็นผู้คนสวมเสื้อชูชีพเตรียมพร้อมเผื่อต้องหนีไฟลงน้ำ อุณหภูมิในพื้นที่ที่เกิดไฟป่าอาจพุ่งทะลุปรอทหลายร้อยองศา ทำให้ใครก็ตามตายได้เลย โดยที่เปลวไฟยังไปไม่ถึง

อย่างไรก็ตาม หน่วยฉุกเฉินรัฐวิคตอเรีย ระบุว่าการหนีลงทะเล เป็นทางเลือกสุดท้าย