แนวโน้มตลาดหุ้นไทยรายสัปดาห์ (30 ธ.ค.62)

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยรายสัปดาห์ (30 ธ.ค.62)

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย (30 ธ.ค. - 3 ม.ค. 2563): มุมมองเป็ นบวกต่อ ดัชนีฯ ในช่วงต้นปี 2563

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้: ฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงต้นปี 2563 เนื่องจากเราคาดว่ากระแสทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นเกิดใหม่และตลาดหุ้นไทยน่าจะดีขึ้นบ้างไม่มากก็น้อย เนื่องจาก i) สัญญาณบวกจากเครื่องชี้ในภาคการผลิตและการค้าโลก หลังจากสหรัฐฯ และจีนเตรียมลง
นามดีลการค้าหลังช่วงหยุดปีใหม่ และ ii) มุมมองของเราที่ค่าเงินบาทน่าจะแข็งค่าต่อได้ โดยเฉพาะในช่วงเดือน ม.ค. ซึ่งค่าเงินดอลล่าร์ มีแนวโน้มอ่อนค่าลงตามมาตรการเสริมสภาพคล่องจากฝั่งสหรัฐฯรวมทั้งความคาดหวังของตลาดต่อการปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ด้านปัจจัยภายในประเทศ เรามองว่าแรงกดดันจากการไถ่ถอนกองทุน LTF น่าจะไม่มากนัก เนื่องจากกองทุน LTF ที่มีการซื้อในปี 2559 นั้นเป็นปีแรกที่ติดเกณฑ์ถือครอง 7 ปี และผู้ลงทุนต้องรอถึงปี 2565 จึงขายออกได้ ขณะที่กองทุน LTF ที่มีการซื้อไปในปี 2558 นั้น น่าจะได้มีการไถ่ถอนไปมากแล้วระหว่างปี 2562 (ยังอิงเกณฑ์ถือครองกองทุน LTF เป็นเวลา 5 ปี)

ปัจจัยด้านเศรษฐกิจและตลาดการเงิน ที่น่าจะมีผลต่อการลงทุนสัปดาห์นี้

        - เครื่องชี้ด้านภาคการผลิตของประเทศหลักๆ น่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้นในเดือน ธ.ค. 2562 โดยในสัปดาห์นี้ ทางการจีนจะรายงานดัชนี NBS PMI ในวันที่ 31 ธ.ค. ซึ่ง consensus คาดว่าจะลดลงเล็กน้อยจากในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ในฝั่งสหรัฐฯ นั้น จะมีการรายงานดัชนี ISM ภาคการผลิตในวันที่ 3 ม.ค.ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าได้ (ดูรายละเอียดในตารางด้านล่าง)

- กำหนดเวลาที่ชัดเจนของวันลงนามการเจรจาการค้า น่าจะส่งผลดีต่อจิตวิทยาตลาดหุ้น โดยในช่วงปลายสัปดาห์นี้ คาดว่านักลงทุนจะติดตามการประกาศวันที่สหรัฐฯ และจีนจะพบกันเพื่อลงนามดีลการค้าในเฟสแรก ซึ่งน่าจะเกิดขึ้นภายในกลางเดือน ม.ค. ทั้งนี้นักลงทุนควรติดตามประเด็นของการเริ่มเจรจา
การค้าในเฟสที่สองด้วย ว่ามีแนวโน้มเกิดขึ้นเร็วมากน้อยเพียงใด

- ตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือน พ.ย. น่าจะยังอ่อนแอ แต่ผลกระทบต่อตลาดหุ้นน่าจะมีจำกัดมาก ธปท. จะรายงานชุดข้อมูลเศรษฐกิจไทยของเดือน พ.ย. ในวันนี้ ซึ่งตามที่นักลงทุนได้เห็นจากการรายงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อว พบว่าดัชนี MPI และภาคการส่งออกน่าจะติดลบค่อนข้างมาก YoY ขณะที่เครื่องชี้
ด้านการบริโภคอาจชะลอตัวลง ส่วนภาคการท่องเที่ยวยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่แข็งแกร่งในช่วง high season ทั้งนี้นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้แล้วว่าตัวเลขเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสี่ยังไม่ดีนัก ส่งผลดีแรงกดดันต่อตลาดหุ้นไทยน่าจะมีอย่างจำกัด

ปัจจัยด้านเศรษฐกิจและตลาดการเงิน ที่น่าจะมีผลต่อการลงทุน

สำหรับประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจยังคงเป็นหุ้นเชื่อมโยงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก เช่น กลุ่มโรงกลั่น กลุ่มปิโตรเคมี กลุ่มอิเลกโทรนิกส์ รวมทั้งหุ้นที่ราคาลดลงมาแรงและมีข่าวบวกเข้ามากระตุ้นการฟื้นตัวของราคาหุ้น เช่นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น โดยหุ้นที่เรามองว่าน่าสนใจในกลุ่มต่างๆ ดังกล่าว ได้แก่ SPRC*, ESSO*, IVL*, HANA*, AP* และ SPALI* เป็นต้น