ลาทีปีหมูเขี้ยวตัน

ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์

SET Index อ่อนตัวลงเล็กน้อย -0.81 จุด (-0.05%) ปิดที่ระดับ 1,578 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.9 หมื่นล้านบาท โดยแม้ว่าจะมีแรงซื้อกลุ่ม Global play ตามพัฒนาการเชิงบวกของการเจรจาการค้าเฟสแรกสหรัฐ-จีน รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตามจากความผันผวนของการปิด position เปลี่ยน series TFEX กดให้ดัชนีอ่อนตัวลงในช่วงท้ายตลาด สำหรับนักลงทุนต่างชาติเป็นซื้อสุทธิ 979 ล้านบาท และ Net Long TFEX 3,033 สัญญา แต่ขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 1,569 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้

เรามีมุมมองเป็นกลางคาด SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1,570 – 1,585 จุด โดยแม้ว่าภาวะตลาดยังคงมีปัจจัยบวกความคาดหวังการลงนามการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐ-จีนในช่วงต้นเดือนม.ค. รวมถึงราคาน้ำมันดิบที่ทรงตัวระดับสูงเหนือ 61 US/Barrel หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐและจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานลดลง อย่างไรก็ตาม กระแส Fund flow ต่างชาติที่ชะลอตัวรวมถึงแรงขายลดความเสี่ยงก่อนหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่จะเป็นตัวกดดันให้ภาวะตลาดผันผวนง่ายด้วย Volume ซื้อ/ขายที่เบาบาง

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

• กลุ่ม Global Play: PTTEP, TOP, PTTGC, IVL, KCE, HANA อานิสงส์ข่าวจีน-สหรัฐบรรลุข้อตกลงการค้าเฟสแรก
• กลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะได้เข้าคำนวณ SET 50 (VGI) และ SET 100 (STPI, THG, TQM, VGI) รอบใหม่
• กลุ่มที่คาดว่างบ 4Q19 เติบโต ได้แก่ GPSC, CPF, ERW, TASCO, EPG , SAWAD, MTC, JMT, BCH, CHG

หุ้นแนะนำวันนี้

• IVL (ปิด 35 ซื้อ/เป้า 45) ได้อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้น รวมถึงผลประกอบการที่คาดหวังผลบวกจากการซื้อ Hunstman จะช่วยหนุนให้กำไรของ IVL สูงขึ้นตั้งแต่ 1Q20 (ดีล Hunstman จะเพิ่ม EBITDA ให้ IVL ประมาณ 20% ในปีหน้า)
• BCH (ปิด 17 ซื้อ เป้า IAA Consensus 20 บาท) กำไรสุทธิยังเติบโตดี ระยะสั้นยังมี story และ upside จากประเด็นการขอปรับขึ้นค่ารักษาพยาบาลจากกลุ่มลูกค้าประกันสังคม โดยปกติจะมีการเจรจาเพื่อปรับค่ารักษาพยาบาลกันทุก 2 ปี (BCH ปรับขึ้นราคาครั้งสุดท้าย เมื่อเดือน ก.ค.ปี 2017)

บทวิเคราะห์วันนี้

Macro Strtegy (Happy New Year, Happy Investing)

ประเด็นสำคัญวันนี้

• (+) ภาวะตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดบวกทำนิวไฮขานรับข้อมูลศก.จีน,ข้อตกลงการค้า: ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 28,645.26 จุด เพิ่มขึ้น 23.87 จุด หรือ +0.08% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,240.02 จุด เพิ่มขึ้น 0.11 จุด หรือ +0.00% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 9,006.62 จุด ลดลง 15.77 จุด หรือ -0.17% ขานรับตัวเลขผลกำไรของบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของจีนเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 5.4% หลังจากร่วงลง 9.9% ในเดือนต.ค. รวมถึงความเชื่อมั่นว่าสหรัฐ-จีนจะลงนามในข้อตกลงการค้าเฟสแรกเร็วๆนี้
• (+) สนง.สถิติจีนเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมช่วง 11 เดือนแรกปีนี้ลดลง 2.1%: สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานกำไรบริษัทอุตฯขนาดใหญ่ของจีนเดือนพ.ย. +5.4% ดีกว่าเดือนต.ค.ที่ -9.9% ส่วนในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ย.) -2.1%yoy สู่ระดับ 5.61 ล้านล้านหยวน  สำหรับกำไรบริษัทอุตสาหกรรมของรัฐบาลจีนในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ -11.2 %yoy สู่ระดับ 1.6 ล้านล้านหยวน ขณะที่กำไรบริษัทอุตสาหกรรมในภาคเอกชน +6.5% แตะที่ 1.59 ล้านล้านหยวน
• (+) ภาวะตลาดน้ำมัน WTI ปิดบวก จากตัวเลขสต็อกน้ำมันและแท่นขุดเจาะน้ำมันลดลง: สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 61.72 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งานลดลง 8 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 677 แท่น ประกอบกับ EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 5.4 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะลดลง 3 ล้านบาร์เรล
• (+/-) ปัจจัยต้องติดตาม :

              - 31 ธ.ค. ตัวเลข PMI ภาคการผลิตของจีนเดือนธ.ค. Consensus คาดหดตัวลงเล็กน้อยสู่ 50.2 จุด จาก 50.1 จุดในเดือนพ.ย.   

              - 2 ม.ค. 2020 FOMC Meeting Minutes 

             - 3 ม.ค. 2020 ตัวเลข PMI ภาคการผลิตของสหรัฐโดย ISM เดือนธ.ค. Consensus คาดปรับตัวขึ้นเป็น 49.0 จุด จาก 48.1 จุดในเดือนก่อน