ความสุขมาจากไหน

ความสุขมาจากไหน

ทำไมช่วงปีใหม่ ผู้คนถึงต่างอวยพรให้มีความสุข แล้วจริงๆ ความสุขมาจากไหน เราสร้างขึ้นมาเองไม่ได้หรือ?

เมื่อใกล้ปีใหม่ ผู้คนต่างอวยพรกันให้มีความสุขราวกับว่าความสุขเป็นสิ่งของหายากจนเราลืมไปว่ามันเป็นนามธรรม

ที่ไม่จำเป็นต้องมาจากข้างนอกหรือคนอื่น ตัวเราเองก็สามารถทำให้เกิดขึ้นได้

ในวาระใกล้ปีใหม่ 2563 ผู้เขียนขอนำเรื่อง "ความสุข" ที่เคยเขียนไว้นานมาแล้วมาปัดฝุ่นพร้อมกับตกแต่งเพื่อพิจารณากันอีกสักครั้ง ใครจะไปรู้มันอาจทำให้มองความสุขด้วยแง่มุมที่ต่างไป และเห็นว่าความสุขสามารถเกิดขึ้นกับตัวเราได้เสมอโดยไม่ต้องคอยให้คนมาอวยพรก็ได้

  • ความจริงเกี่ยวกับ "ความสุข" ที่อาจลืมไปมีดังนี้

1.ถ้าปกติเป็นคนไม่มีความสุข มีความเป็นไปได้สูงว่าในอนาคตคุณก็จะไม่มีความสุข เพราะมันคือนิสัยของคุณ นิสัยที่ชอบสร้างเงื่อนไขของการมีความสุขให้ตัวเอง

2.หัดใส่ใจกับสิ่งที่คุณมี หรือข้อดีในชีวิต ตราบใดที่คุณมัวโฟกัสแต่สิ่งที่ยังไม่มี คุณจะไม่มีวันพบความสุข เพราะปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณ "มี" อะไร แต่อยู่ที่คุณ "เป็น" อย่างไร เช่นเป็นคนที่โหยหาแต่สิ่งที่ตัวเองขาดอย่างไม่สนใจคุณค่าของสิ่งที่ตัวเองมีในมือในปัจจุบัน

3.ถึงได้สิ่งที่ต้องการแล้ว ความสุขคุณจะขึ้นมาแค่วูบเดียว หลังจากนั้นมันก็จะลดลงไปสู่จุดค่าเฉลี่ยของคุณแล้วคุณจะหันไปไขว่คว้า และเกิดความทุกข์กับสิ่งที่ยังไม่ได้ต่อไป เป็นวงจรไม่รู้จบ 

4.คนที่รอความสุขจากคนอื่นนั้นน่าสงสารที่สุด "ฉันจะมีความสุขก็ต่อเมื่อเขาโทรมา" "ฉันจะมีความสุขก็ต่อเมื่อได้งานใหม่" หารู้ไม่ว่าความสุขนั้นสร้างเองได้เลยโดยไม่ต้องรอเงื่อนไขใดๆ และไม่ต้องรอใคร

5.พื้นฐานของการมีความสุขคือการชื่นชมในสิ่งที่คุณมี ถ้าคุณนึกข้อดีในชีวิตคุณไม่ออกลองถามคนอื่นดู

6.การบ่นเรื่องที่ไม่ดีไม่ได้ช่วยให้คุณสบายใจขึ้น กลับจะทำให้แย่ลง เพราะการเอามาเล่าใหม่เป็นการฉายภาพนั้นซ้ำๆ อยู่ในหัว

7.โดยปกติความสุขมักอยู่ตรงหน้าคุณ แอร์เย็นๆ อาหารอร่อยๆ วิวสวยๆ แต่ใจคุณดันไปคิดเรื่องอื่นในหัว (เรื่องที่ไม่มีความสุข) ในตอนนั้น แล้วก็ชอบบ่นว่าชีวิตไม่มีความสุข

8.ตราบใดที่คุณยังเป็นคนธรรมดา คุณจะยังเจอความทุกข์อยู่เรื่อยๆ จงหัดเป็นคนมองโลกในแง่ดี มองหาประโยชน์ทุกครั้งจากเหตุการณ์แย่ๆ แล้วคุณจะมีกำไรชีวิตมากขึ้น

9.คนเราชอบอยู่ใกล้คนมีความสุข ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบบ่นแต่ปัญหาตัวเอง มองแต่ด้านร้าย เอาแต่ติว่าคนอื่น คนอยู่ใกล้ๆ ประสาทจะกิน สุดท้ายจิตใต้สำนึกของพวกเขาจะสั่งให้ค่อยๆ ห่างคุณไปโดยไม่รู้ตัว

10.ความสุขและการมองโลกในแง่ดีเป็นโรคติดต่อ จงอยู่ใกล้คนเหล่านี้เพื่อรับออร่าของความสุข และจงแพร่กระจายความสุขเพื่อให้คนอื่นต่อไป

11.ความสุขเป็นทรัพยากรที่ไม่มีวันหมด และผลิตจากอากาศได้ทันที ดังนั้นไม่ต้องกลัวคนอื่นแย่งความสุขไป ทุกคนสามารถมีได้มากเท่าที่ตนเองต้องการ

12.จงทำตัวเป็น Happiness Machine (เครื่องผลิตความสุข) แล้วคนมีความสุขเหมือนกันจะถูกดึงดูดเข้ามาหาคุณ

13.ไม่มีคนไร้สุขที่ไหนจะมีความรักที่ดีได้ และไม่มีคนขี้ระแวงที่มองโลกในแง่ร้ายที่ไหนจะมีความสัมพันธ์ที่สงบสุขได้

14.ความสุขปลายทางเป็นเพียงมายา จงมองหาความสุขที่มีอยู่ระหว่างทาง

15.ความสุขและการมองโลกในแง่บวกเป็นทักษะ นั่นหมายความว่าคุณสามารถ "ฝึก" ที่จะเป็นคนมีความสุขและมองโลกในแง่บอกได้เสมอ

ทักษะคือความสามารถในการกระทำสิ่งหนึ่ง เช่น ขึ้นต้นไม้ ว่ายน้ำ ใช้คอมพิวเตอร์เป็น สามารถใช้ภาษาต่างประเทศ ฯลฯ "การมีความสุข" ก็เป็นทักษะอย่างหนึ่งที่มิได้เกิดมากับตนเองตั้งแต่เกิด หากพัฒนาขึ้นมาทีละน้อยๆ อย่างไม่รู้ตัวท่ามกลางสิ่งแวดล้อมที่หลากหลาย ไม่ว่าอยู่ในช่วงชีวิตใด

ทักษะการมีความสุขเกิดขึ้นได้เสมอตราบที่ตระหนักว่ายังขาดทักษะเช่นนี้และบากบั่นฝึกฝนสร้างมันขึ้นมา ซึ่งในพื้นฐานก็คือการฝึกทักษะการคิดในด้านบวก พยายามรักชอบคนและสิ่งของต่างๆ รอบตัว 

ความลับของการมีความสุขคือพอใจและซาบซึ้งสิ่งที่เรามี แทนที่จะไม่พอใจและทุกข์กับสิ่งที่เราไม่มี