“สุรางคณา วายุภาพ”ฝันแจ้งเกิดยูนิคอร์นตัวแรกไทย

“สุรางคณา วายุภาพ”ฝันแจ้งเกิดยูนิคอร์นตัวแรกไทย

อยากให้สตาร์ทอัพไทยไม่เป็นแค่การทำการตลาด ประชาสัมพันธ์ เพื่อขายบริษัททิ้งให้บริษัทรายใหญ่ หรือ ต่างชาติ"

สู่ความท้าทายใหม่สู่ทศวรรษที่2

เธอ เสริมว่า งานสำคัญที่จะเร่งเดินหน้าในการก้าวไปสู่ทศวรรษที่สองของเอ็ตด้า คือ การเตรียมพร้อมประเทศให้รับความท้าทายใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น 2 ธุรกิจบริการที่ควรผลักดันให้มีการกำกับดูแลโดยเร็ว คือ การกำกับดูแลผู้ให้บริการออกใบรับรองอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งนอกจากการยกระดับของผู้ประกอบการแล้ว ยังทำให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างระบบในทางเทคนิคของผู้ให้บริการแต่ละราย และการให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล ซึ่งปัจจุบันถือเป็นระบบที่มีความสำคัญต่อขั้นตอนการทำธุรกรรมทางออนไลน์ของประชาชน รองรับเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น บล็อกเชนได้

การวางรากฐานโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศ คือ อีกงานสำคัญของเอ็ตด้า โดยเฉพาะการสร้างหลักความแน่นอนทางกฎหมาย (Legal Certainty) เพื่อให้ทุกฝ่ายเกิดความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย ซึ่งเอ็ตด้าได้มีส่วนรวมในการขับเคลื่อนชุดกฎหมายดิจิทัลกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จนเกิดผลเป็นรูปธรรมทั้งหมดในปี 2562 พร้อมจัดทำมาตรฐาน ที่ถือเป็นแนวปฏิบัติที่สอดคล้องกับระดับสากล เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลดิจิทัลระหว่างกันได้ 

รวมทั้งพัฒนาบริการที่สอดคล้องกับมาตรฐานข้างต้น เช่น ระบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่น่าเชื่อถือ ช่วยในการแปลงแบบฟอร์มราชการเดิมให้เป็นอิเล็กทรอนิกส์ ที่นำข้อมูลมาใช้ต่อได้ กำหนดแนวทางว่า การลงนามเอกสาร การจัดเก็บเอกสารระยะยาว ที่เป็น e-Document ว่าจะต้องทำอย่างไร นอกจากนี้ ยังมีบริการประทับรับรองเวลา เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือทำให้มั่นใจว่าข้อมูลนั้นสร้างขึ้น ณ เวลาใด โดยอาศัยกลไกการอ้างอิงเวลาของคนกลาง 

157762620080

ต้องปรับตัวเพื่อโกออนไลน์

ที่ผ่านมา ตลอดเกือบ 9 ปี เธอ ย้ำว่า เอ็ตด้าได้ขับเคลื่อนงานสำคัญมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษกิจและสังคมไทยมาอย่างมากมาย เพื่อเป็นแนวทางในการส่งเสริมและสนับสนุนการทำธุรกรรมออนไลน์ในแต่ละอุตสาหกรรมในภาพรวมของประเทศงานเหล่านี้เป็นเหมือนงานBig Dataในยุคนี้ที่คนให้ความสนใจ แต่การที่เอกชนยังไม่แชร์ข้อมูลกัน ทำให้การสำรวจโดยภาครัฐอย่างเอ็ตด้ายังมีความจำเป็นอยู่

ซึ่งประเทศเราจะก้าวไปทางไหน...ต้องรู้ว่าเราอยู่ตรงไหนต้องรู้ว่าผู้ประกอบการร้านค้าบนแพลตฟอร์มมีจำนวนและมีรายได้เท่าใรเมื่อคนเปลี่ยนไป GoOnline กันหมด ซึ่งปัจจุบันคนใช้ไลน์มีมากถึง 44.0 ล้านบัญชี ใช้เฟซบุ๊ค 54.0 ล้านบัญชี ใช้พร้อมเพย์ 46.5ล้าน และลงทะเบียนชิม ช้อป ใช้เกือบ 15 ล้านคน 

ทั้งหมดนี้คือคนไทยที่ใช้อินเทอร์เน็ต และผลสำรวจการใช้อินเทอร์เน็ตของเอ็ตด้าปีล่าสุด เราใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ยสูงถึง 10 ชม.5นาทีต่อวัน การซื้อของออนไลน์ติด 1 ใน 5 ของกิจกรรมยอดฮิต 2 ปีติดต่อกันขณะที่ตัวเลขผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยมีสูงถึง 2,736,744 ราย