เอาจริง! 'เมาขับซ้ำซาก' ระวังได้ทัวร์ห้องดับจิต

เอาจริง! 'เมาขับซ้ำซาก' ระวังได้ทัวร์ห้องดับจิต

กรมคุมประพฤติ เล็งจัดการเด็ดขาดกรณีเมาแล้วขับซ้ำซาก ลั่นปีใหม่นี้ทำผิดซ้ำโดนส่งบำบัดอาการติดสุรา เตือนดื่มฉลองต้องไม่ขับขี่ยานพาหนะทุกชนิด หากฝ่าฝืนพาทัวร์ห้องดับจิต เปรยเตรียมกลับมาใช้กำไลอีเอ็มภายในปีหน้า

วันนี้ (29 ธ.ค.) นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวถึงมาตรการป้องปราบผู้กระทำผิดฝ่าฝืนเมาแล้วขับในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ว่า ในปีนี้ แม้กรมคุมประพฤติจะไม่มีกำไลอิเล็กทรอนิกส์ (อีเอ็ม) ใช้ควบคุมผู้ถูกคุมประพฤติคดีเมาแล้วขับ แต่ยังคงมาตรการเข้ม

"ผู้ที่ถูกจับในคดีเมาแล้วขับที่มีประวัติกระทำความผิดซ้ำจะถูกส่งตัวเข้ารับการบำบัดอาการติดสุรากับกระทรวงสาธารณสุขทันที โดยจะต้องเข้ารับการบำบัดเต็มตามหลักสูตรที่กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้กำหนด"

ส่วนผู้ที่พบว่ากระทำความผิดเป็นครั้งแรก นายวิตถวัลย์เผยว่า กรมคุมประพฤติจะเสนอศาลขอให้ส่งตัวเข้าทำงานบริการสังคมในโรงพยาบาล ซึ่งจัดเตรียมให้ผู้เมาแล้วขับไปดูแลผู้ป่วยในแผนกอุบัติเหตุ ช่วยเข็นรถอำนวยความสะดวกให้ผู้ป่วย และเข้าเยี่ยมชมห้องดับจิต เพื่อกระตุ้นให้เกิดความสำนึกไม่ให้ขับขี่ยานพาหนะทุกประเภทหลังดื่มสุรา เพราะไม่เพียงทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต แต่ยังมีผู้ตกเป็นเหยื่อต้องบาดเจ็บและพิการจากผู้เมาแล้วขับ

นอกจากนี้จะเพิ่มหลักสูตรอบรมจราจรให้เห็นถึงพิษภัยเมาแล้วขับเพิ่มเติมอีกด้วย อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบย้อนหลังพบว่าผู้ที่ถูกจับและคุมประพฤติในคดีเมาแล้วขับจะเกิดความเข็ดหลาบไม่กระทำความผิดซ้ำ การจับกุมในระยะหลังจะเป็นผู้ก่อคดีรายใหม่ ดังนั้น กรมฯจึงต้องเร่งประชาสัมพันธ์กระตุ้นเตือนให้คนไทยละเลิกการดื่มสุราและขับขี่ยานพาหนะ

อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวอีกว่า สำหรับทิศทางการนำกำไลอิเล็กทรอนิกส์ (อีเอ็ม) กลับมาใช้ยังมีความเป็นไปได้ที่กรมคุมประพฤติจะเปิดใช้กำไลอีเอ็มรอบใหม่ภายในปี 2563 เบื้องต้นจึงเร่งตรวจสอบข้อผิดพลาดจากการใช้งานระบบกำไลอีเอ็มเดิม ซึ่งกรณีดังกล่าวนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้กำชับให้เรียนรู้จากการผิดพลาด

ในส่วนของการกำหนดสเป็คกำไลอีเอ็ม กรมคุมประพฤติจะยึดตามแนวทางของศาลยุติธรรม โดยกำไลจะต้องใส่ที่ข้อเท้า และจะเพิ่มคุณสมบัติให้ตัวเครื่องสามารถใช้ควบคุมจำกัดบริเวณผู้ถูกคุมประพฤติ เช่น กรณีเมาแล้วขับห้ามออกนอกบ้านยามวิกาลในเวลา 22.00-04.00 น. หรือห้ามเข้าไปภายในสถานบันเทิง กรณีกลุ่มเด็กแว้นจะถูกกำหนดห้ามออกนอกบ้านยามวิกาล และห้ามขับขี่ยานพาหนะด้วยความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด หรือการนำกำไลไปใช้กับผู้ต้องขังที่ได้รับการพักโทษปล่อยตัวก่อนกำหนด