'สมาร์ทฟาร์มเมอร์' ฉบับ' ซันสวีท' ลดต้นทุน-เพิ่มผลผลิต

'สมาร์ทฟาร์มเมอร์' ฉบับ' ซันสวีท' ลดต้นทุน-เพิ่มผลผลิต

สมาร์ทฟาร์มเมอร์ช่วยให้การทำเกษตรมีความแม่นยำมากขึ้น และทำให้โรงงานแปรรูปสามารถวางแผนบริหารจัดการได้ง่ายขึ้น เกษตรกรวางแผนการเพราะปลูกได้ดีขึ้น และลดความเสียหายจากการเพาะปลูกซึ่งเป็นสิ่งที่ "ซันสวีท" ผู้ผลิตข้าวโพดหวานแปรรูปรายใหญ่ของไทยกำลังผลักดัน

องอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตข้าวโพดหวานแปรรูปรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่าธุรกิจอุตสาหกรรมแปรรูปการเกษตรสมัยใหม่ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตสินค้าเกษตรตั้งแต่ต้นน้ำ ด้วยการส่งเสริมนำเทคโนโลยีสมาร์ทฟาร์มเมอร์มาให้กับเกษตรกรผู้ผลิตสินค้าวัตถุดิบ เนื่องจากการเกษตรแบบเดิมมีความไม่แน่นอนสูงต้องพึ่งพาดินฟ้าอากาศเป็นหลัก

สมาร์ทฟาร์มเมอร์ช่วยให้การทำเกษตรมีความแม่นยำมากขึ้น และทำให้โรงงานแปรรูปสามารถวางแผนบริหารจัดการได้ง่ายขึ้น เช่น ระบบการพยากรณ์อากาศที่แม่นยำเจาะลึกรายพื้นที่ ทำให้เกษตรกรวางแผนการเพราะปลูกได้ดีขึ้น และลดความเสียหายจากการเพาะปลูก รวมทั้งรู้ล่างหน้าถึงภูมิอากาศหนาวหรือร้อน ซึ่งส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืชผลทั้งสิ้น โดยการมีข้อมูลที่ดีทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง

โดเทคโนโลยีแอพพลิเคชั่นพยากรณ์อากาศสมัยใหม่มีราคาไม่แพงมากนัก แต่ได้ผลคุ้มค่า สามารถพยากรณ์อากาศได้แม่นยำสูงขึ้นเรื่อยๆในระดับ 70% และพยากรณ์รายพื้นที่รายตำบลได้ เช่นในปีนี้หน่วยราชการพยากรณ์อากาศว่าจะแห้งแล้งทั้งปี ดังนั้นจึงไม่ควรปลูกข้าวโพดหวาน เพราะจะไม่คุ้มต่อการผลิต 

"แอพพลิเคชั่นของเราระบุว่าจะมีฝนตกช่วงกลางปี ทำให้เราทำการเพาะปลูกและได้ผลผลิตที่ดี ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ทำให้ธุรกิจเดินหน้าได้ รวมทั้งยังสามารถรู้อุณหภูมิล่วงหน้า ทำให้วางแผนช่วงเวลาเพาะปลูกที่มีประสิทธิภาพ เพราะหากอากาศหนาวข้าวโพดจะยืดเวลาให้ผลผลิตจาก 75 วัน เป็น 90 วัน ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น”

นอกจากนี้ เทคโนโลยีสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ยังช่วยปรับสภาวะแวดล้อมให้เหมาะสมต่อการเพาะปลูก เช่น การติดเซ็นเซอร์ตรวจสอบความชื้น ปริมาณแสงแดด หากตรวจพบว่าความชื้นน้อยเกินไป ก็จะสั่งการให้ระบบสปริงเกอร์ฉีดน้ำออกมา การติดเซ็นเซอร์วิเคราะห์สารอาหารในดิน ทำให้รู้ว่าต้องเสริมด้วยปุ๋ยสูตรใด หรือการใช้โดรนตรวจโรคพืช ก็จะทำให้การควบคุมโรคได้เร็ว และตรงจุด ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้นับวันก็จะมีประสิทธิภาพดีขึ้นเรื่อยๆ 

หากเกษตรกรได้พืชผลที่มีคุณภาพสูง และใช้เวลารวดเร็วกว่าเดิม ก็จะทำให้ได้รับผลกำไรมากขึ้น ส่วนโรงงานก็ได้สินค้ามีคุณภาพตามที่ลูกค้าต้องการขายได้ราคา และส่งมอบได้ตรงเวลา

ทั้งนี้ หลังจากที่ ซันสวีท ได้เริ่มส่งเสริมเทคโนโลยีสมาร์ทฟาร์มเมอร์ให้กับเกษตรกรที่คอนแทรกฟาร์มมิ่งกับทางโรงงาน พบว่าปริมาณผลผลิตข้างโพดหวานสูงขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมเมื่อ 5 ปีก่อน มีผลผลิตประมาณ 5-8 หมื่นตันต่อปี ปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็น 1-1.2 หมื่นตันต่อปี หรือมีผลผลิตเพิ่มขึ้นเกือบ 1 เท่าตัว รวมทั้งโรงงานก็บริหารจัดการผลผลิตได้ดีขึ้น เพราะสามารถกำหนดเวลาการเพาะปลูกให้กับเกษตรกร ทำให้มีผลผลิตทยอยเข้าโรงงานในทุกๆเดือน ไม่ล้น หรือขาดแคลนผลผลิต 

ดังนั้น ในอนาคตจะขยายพื้นที่เกษตรสมาร์ทฟาร์มเมอร์ของเกษตรกรเพิ่มขึ้นอีก จากปัจจุบันที่เกษตรกรที่เป็นสมาชิกของ ซันสวีท เข้าสู่ระบบสมาร์ทฟาร์มเมอร์ประมาณ 20-30% หรือมีพื้นที่ประมาณ 3 หมื่นไร่ จะขยายให้ครบ 100% หรือครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 1 แสนไร่ ก่อนปี 2568 หรืออีก 5 ปีข้างหน้า

  157780390519

โดย ซันสวีท จะเข้าไปลงทุนพัฒนาแอพพลิเคชั่นพยากรณ์อากาศ การบริหารจัดการฟาร์มให้กับเกษตรกร และเซ็นเซอร์ตรวจวันสภาพอากาศ เพื่อให้วางแผนการทำเกษตรได้ง่าย และลดความเสียหาย ส่วนเกษตรกรจะเป็นผู้ลงทุนอุปกรณ์ต่างๆในพื้นที่ของตัวเอง เช่น ระบบจ่ายน้ำ บ่อกักเก็บน้ำ โซลาร์เซลล์ปั้มน้ำ อุปกรณ์เซ็นเซอร์ตรวจวัดความชื้อ อุณหภูมิต่างๆ เป็นต้น โดยมีระดับการลงทุนตั้งแต้ 1.5 – 5 หมื่นบาทต่อไร่ ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ต่างๆที่จะติดตั้ง

นอกจากนี้ ซันสวีท ยังได้ร่วมกับ ล็อกซเล่ย์ พัฒนาแพลตฟอร์มสมาร์ทฟาร์มเมอร์ ร่วมกับ สกายวีไอวี ในการใช้โดรนเพื่อวิเคราะห์ดินในเชิงลึก ตรวจเช็คสุขภาพพืช และ

จัดทำบิ๊กดาต้า ร่วมมือกับ รีคัลท์ ในการใช้แอพพลิเคชั่นพยากรณ์อากาศ และร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรด้านต่างๆ เป็นต้น โดยความร่วมมือต่างๆเหล่านี้ จะช่วยพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆให้เหมาะสมกับประเทศไทย และต่อยอดพัฒนาความรู้ เพื่อให้ไทยก้าวไปสู่ผู้นำในด้านเทคโนโลยีการเกษตรมากขึ้น