"บิ๊กป๊อก" สั่งจังหวัดคุมเข้ม ดูแลความปลอดภัยปชช. เทศกาลปีใหม่ 2563

"บิ๊กป๊อก" สั่งจังหวัดคุมเข้ม ดูแลความปลอดภัยปชช. เทศกาลปีใหม่ 2563

"อนุพงษ์" สั่งจังหวัดคุมเข้ม ดูแลความปลอดภัยปชช. พร้อมกวดขันวินัยจราจรป้องกันอุบัติเหตุทางถนน เทศกาลปีใหม่ 2563

วันที่ 27 ธ.ค.2562 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในช่วงปลายเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคม โดยเฉพาะในคืนวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วประเทศ จะจัดกิจกรรมเนื่องในวันส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ ซึ่งมักจะมีการจุดพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง รวมทั้งในห้วงเวลาดังกล่าวสภาพอากาศแห้งและหนาวเย็น ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยได้โดยง่าย นอกจากนี้ ประชาชนยังนิยมเดินทางท่องเที่ยวและพักผ่อนยังสถานที่ต่าง ๆ อย่างคับคั่ง ส่งผลให้อาจเกิดอุบัติภัยสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เพื่อเป็นการเตรียมการป้องกันและเฝ้าระวังการเกิดอัคคีภัยและอุบัติภัยจากการสัญจรของประชาชนที่เดินทางท่องเที่ยวและจัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ บกปภ.ช. จึงได้สั่งการไปยังกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดทุกจังหวัด ดำเนินการ 3 ด้าน ดังนี้

1. ด้านการเตรียมความพร้อม ให้กำชับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ที่จะจัดงานเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ และมีการเล่นพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง หรือการแสดงโดยใช้เทคนิคพิเศษ (Special Effect) ให้เตรียมการป้องกันและใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ และห้ามเล่นพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิงภายในสถานบันเทิงอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันการเกิดอันตรายจากอัคคีภัย และให้ผู้อำนวยการท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การช่วยเหลือในพื้นที่รับผิดชอบเป็นไปอย่างรวดเร็วและทันท่วงที รวมถึงกำชับให้ผู้อำนวยการหรือเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ตรวจตราพื้นที่ชุมชน สถานประกอบการ สถานบันเทิง อาคารสถานที่ วัสดุสิ่งของภายในและโดยรอบ ที่มีสภาพเสี่ยงต่อการเกิดสาธารณภัยได้โดยง่าย และปรับปรุงแก้ไขตามอำนาจหน้าที่ รวมทั้งตรวจตราเส้นทางสัญจร โดยเฉพาะบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำ พื้นที่ตลิ่ง ความมั่นคงแข็งแรงของโป๊ะ ท่าเทียบเรือ และความปลอดภัยเรือโดยสารที่มีสภาพเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติภัยได้ง่าย ให้แจ้งเจ้าพนักงานตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเข้าปรับปรุงแก้ไขตามอำนาจหน้าที่

2.ด้านการรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ความเข้าใจกับประชาชน ให้เผยแพร่ความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนได้ทราบถึงภัยอันตรายที่เกิดขึ้นจากการเล่นพลุ ประทัด ดอกไม้เพลิง การปล่อยโคมลอย รวมถึงบทลงโทษต่อผู้ฝ่าฝืนกฎหมายหรือผู้กระทำการประมาทเลินเล่อจนส่งผลต่อการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงรณรงค์ให้ประชาชนหมั่นตรวจสอบและควรเปลี่ยนอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สายไฟที่มีสภาพเก่าหรือชำรุด และระมัดระวังการจุดไฟเพื่อเผาเศษวัสดุหรือบรรเทาความหนาวเย็น โดยเฉพาะการจุดไฟบริเวณใกล้กับที่อยู่อาศัย เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งและลมแรง อาจทำให้ไฟลุกลามเข้าสู่ที่พักอาศัยได้อย่างรวดเร็ว และในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ประชาชนนิยมกางเต็นท์ ให้เน้นย้ำนักท่องเที่ยวตระหนักและระมัดระวังการเสียชีวิตจากการขาดอากาศเนื่องจากการจุดเตาไฟเพื่อบรรเทาความหนาวเย็นภายในเต็นท์ที่พัก

3.ด้านการปฏิบัติการ ให้จัดชุดเจ้าหน้าที่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) ประสานการปฏิบัติร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และเชิญชวนประชาชนจิตอาสา เฝ้าระวังสถานที่เสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย อุบัติภัย และความปลอดภัยอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณพื้นที่จัดงานเฉลิมฉลองฯ ที่ประชาชนนิยมเดินทางร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยให้เตรียมความพร้อมหน่วยเคลื่อนที่เร็วพร้อมอุปกรณ์ดับเพลิงและกู้ภัยในพื้นที่ที่จัดงานเฉลิมฉลองฯ หรือพื้นที่ชุมนุมชนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัย อุบัติภัย และสามารถเข้าปฏิบัติงานได้ทันทีที่เกิดภัย และให้อำนวยความสะดวก จัดระเบียบการจราจร รวมถึงรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนที่มาร่วมงานเฉลิมฉลองฯ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ขอให้เข้มงวดกวดขันการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน โดยให้ดำเนินการกับผู้กระทำผิดอย่างเข้มงวดตามมาตรการเน้นหนักเรื่องความปลอดภัยทางถนน 10 มาตรการ ได้แก่ "ไม่สวมหมวกนิรภัย มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย เมาสุรา ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่มีใบขับขี่ ความเร็วเกินกำหนด ฝ่าฝืนสัญญาณจราจร ขับรถย้อนศร แซงในที่คับขัน ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับรถ" รวมถึงการแบ่งเป็นพื้นที่ที่มีสถิติการสูญเสียชีวิตสูงย้อนหลัง 5 ปี ต้องเพิ่มมาตรการเป็นพิเศษ และหากเกิดอัคคีภัย อุบัติภัย หรือสาธารณภัยอื่นที่มีผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก ให้ดำเนินการตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และรายงานให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางทราบทันที

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องในโอกาสเทศกาลส่งท้ายปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ 2563 นี้ ขอประชาชนใช้ช่วงเวลาในเทศกาลปีใหม่อย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมือง และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมทำความดี รักษาศีล เจริญภาวนา ปฏิบัติธรรม และร่วมสวดมนต์ข้ามปี เพื่อความเป็นสิริมงคลให้ตนเอง และครอบครัวตลอดไป