จัดกำลังจิตอาสา 585 นาย ช่วยเหลือประชาชนที่ 'หมอชิต' ช่วงปีใหม่

รอง ผบ.ตร. เปิดกิจกรรมจิตอาสาตามโครงการ ร่วมมือ ร่วมใจ ลดอุบัติภัยทางถนน เนื่องในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ จัดกำลัง 585 นาย เพื่อช่วยเหลือดูแลประชาชนที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา เช้าวันนี้ ที่บริเวณลานหน้าทางเข้าสถานีขนส่งกรุงเทพ (หมอชิตใหม่)

พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมจิตอาสาตามโครงการ ร่วมมือ ร่วมใจ ลดอุบัติภัยทางถนน เนื่องในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ประจำปี 2563 โดยในกิจกรรมมีการให้บริการตรวจสภาพรถยนต์ ตรวจวัดแอลกอฮอล์ การอำนวยความสะดวก และให้บริการประชาชน แนะนำเส้นทางและเตือนภัยอาชญากรรม ใช้กำลังทั้งหมด 585 คน โดยมีผู้บังคับบัญชาจากหน่วยงานอื่นๆ เข้าร่วมกันอย่างคับคั่ง

157741762232

พลตำรวจเอกสุวัฒน์ กล่าวว่า กิจกรรมวันนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ มาร่วมกันทำงานบริการ ที่หมอชิตนี้จะมีรถออกวันละ 6,000 เที่ยว มีประชาชนมาใช้บริการหลักแสนคน ดังนั้นหามีการบริการช่วยเหลือประชาชน เด็ก คนแก่ เพื่อจัดระเบียบต่าง ๆ ก็จะทำให้งานบริการรวดเร็วขึ้น โดยทีมจิตอาสาจะช่วยบริการจัดส่งรถตู้รับส่งประชาชนซึ่งทาง บช.น. จัดหามากว่า 10 คัน และหากไม่พอก็จะจัดหาเพิ่มได้

ทั้งนี้ การบริการดังกล่าวก็เพื่อให้เกิดความคล่องตัวด้านจราจรและส่งผลต่อความปลอดภัยด้วย เพราะทางจิตอาสาจะช่วยดูแลป้องกันเหตุไม่คาดฝันด้วย โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการในช่วงปีใหม่ ที่จะเน้นเรื่องอุบัติภัยการสูญเสียชีวิต ซึ่งจะต้องมาประเมินอีกครั้งว่าตัวเลขจะลดลงไหมซึ่งต้องรอสรุปต่อไป ซึ่งเชื่อว่าต้องดีกว่าปีที่แล้ว

สำหรับงานจิตอาสานั้น มีการวางแผนปฏิบัติจนถึงวันที่ 3 ม.ค. แต่จะมีการประเมินกันทุกวันหากประชาชน ยังคงมีจำนวนมากก็จะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่วันนี้เน้นย้ำเรื่องการออกจากกรุงเทพฯ ส่วนในวันอื่นๆ ก็จะประเมินผลต่อไป

พลตำรวจเอกสุวัฒน์ กล่าวว่า เรื่องจราจรจะมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อเร่งระบายรถ เจ้าหน้าที่ดำเนินการอยู่แล้ว รวมถึงมีการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง และขอความร่วมมือกับประชาชนให้ศึกษาเส้นทางเพื่อช่วยเรื่องการเดินทางให้ดียิ่งขึ้น

สำหรับในช่วงคืนสิ้นปีเก่ารับปีใหม่ คาดว่าจะมีประชาชนเดินทางน้อยลง แต่ทางตำรวจก็จะเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยการจัดงานข้ามปี ทั้งการเคาท์ดาวน์ และกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ทางผู้บังคับบัญชาทุกระดับจะลงไปดูเรื่องความปลอดภัยว่าเป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ ทั้งเรื่องคนและสถานที่จัดงาน เพื่อให้เกิดความมั่นใจทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

โดยในกรุงเทพฯ จะมีการจัดงานในพื้นที่ราชประสงค์ ซึ่งจะมีการปิดถนนตั้งแต่เวลา 14.00 น. และที่ห้างไอคอนสยาม ส่วนวัดต่าง ๆ ที่มีการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีซึ่งจะมีประชาชนเข้าร่วมหลักพันนั้น จะต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยซึ่งเจ้าหน้าที่จะเข้าไปดูว่ามีการจัดระบบหรือไม่ ทั้งนี้ฝากเชิญชวนประชาชนให้หันมาใช้รถสาธารณะแทนลดส่วนตัวในกรณีที่สะดวก