‘ซีไอเอ็มบีไทย’กางแผนธุรกิจปี63 มุ่งบริการดิจิทัล100%
"ซีไอเอ็มบีไทย" คาดผลดำเนินงานปีนี้โต 600% มีกำไรก่อนภาษีกว่า 1.8พันล้านบาท ทำสถิตินิวไฮ เปิดแผนธุรกิจปี63 ตั้งเป้าเป็น “Best CX bank”ธนาคารที่ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด ปักธงให้บริการเป็นดิจิทัล 100% สำหรับลูกค้ารายย่อย งัดโปรโมชั่น “ลดงวดผ่อน”จูงใจ
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน)(CIMBT) เปิดเผยแผนยุทธศาสตร์ปี2563ว่า ธนาคารตั้งเป้าจะเป็น “Best CX Bank” หรือธนาคารที่ตอบโจทย์ตรงใจลูกค้ามากที่สุด ผ่าน2ยุทธ์ศาสตร์สำคัญ คือ ธนาคารตั้งเป้าให้บริการผ่านดิจิทัล 100% สำหรับลูกค้ารายย่อย ทั้งสมัครสินเชื่อ การให้บริการซื้อขายกองทุน การโอนเงิน และ จ่ายบิล เป็นต้น
ตั้งเป้าให้บริการครอบคลุมลูกค้ารายย่อยกว่า 5 แสนคน จากปี2562 ที่การให้บริการบนดิจิทัลมีสัดส่วนเพียง10% หรือเข้าถึงลูกค้าเพียง5 หมื่นคนเท่านั้น ซึ่งต้องกระตุ้นให้ลูกค้าหันไปใช้ช่องทางดิจิทัลมากขึ้น ทั้ง การเพิ่มฟีเจอร์เพื่อให้บริการทางการเงินที่ครบวงจร ขณะเดียวกัน ต้องมีการกระตุ้นโดยการให้โปรโมชั่น เช่น การลดค่างวดผ่อนชำระ เป็นต้น
สำหรับด้า่นสินเชื่อ ธนาคารมุ่งไปสู่ดิจิทัลเลนดิ้งมากขึ้น ตั้งเป้าดิจิทัลเลนดิ้งขยับขึ้นสู่ 42% หรือราว 3พันล้านบาท ภายใต้สินเชื่อบุคคลรวมปล่อยใหม่ราว 7-8 พันล้านบาท หากเทียบกับปี 2562 ที่ยอดการปล่อยสินเชื่อผ่านดิจิทัลมีเพียง 10% ของสินเชื่อปล่อยใหม่ 6-7 พันล้านบาท
“ ตอนนี้บริการดิจิทัลยังไม่ถึง 30% ขณะที่ตั้งเป้าปีหน้าไว้ที่ 100% หากเราสามารถก้าวข้ามการเปิดบัญชีข้ามแบงก์ไปได้ การไปสู่เป้าหมายในการให้บริการผ่านดิจิทัลเต็มรูปแบบถือว่าไม่ยาก โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนด้านไอทีใหญ่ๆ เพราะที่ผ่านมาเราลงทุนมามากแล้ว อีกทั้งเรามีแม่ที่แข็งแกร่ง สามารถดึงเทคโนโลยีต่างๆมาใช้กับแบงก์ซีไอเอ็มบีไทยได้ อย่างไรก็ตาม การให้บริการผ่านดิจิทัล100% ไม่ได้หมายความว่าสาขาจะไม่เหลือ สาขาแบงก์ก็ยังอยู่ แต่จะลดลงเหลือ 50สาขา จากปัจจุบันมี 69 สาขา”
เขากล่าวว่า อีกโมเดล ในการผลักดันการเติบโตของธนาคาร คือ “ Go To bank for Asean Solutions” คือการผลักดันบริการดิจิทัลแพลตฟอร์มได้อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อให้ธนาคารมีขีดความสามารถในการให้บริการลูกค้าในอาเซียนมากขึ้น ภายใต้เครือข่ายต่างประเทศที่ธนาคารมีอย่างแข็งแกร่ง
ในด้านผการดำเนินงานปี 2563 คาดการณฺกำไรเพิ่มขึ้น 20% จากปี 2562 ที่คาดกำไรของธนาคารก่อนหักภาษี เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ดำเนินธุรกิจมา หรืออยู่ที่ระดับ 1.8 พันล้านบาท เติบโตกว่า 600% จากปีก่อนหน้า ส่วนสินเชื่อรวมคาดโตกว่า 10% โดยแบ่งเป็นการเติบโตด้านสินเชื่อรายย่อยราว 8% ขณะที่สินเชื่อรายใหญ่คาดเติบโต 12-13%
ส่วนการตั้งสำรองปี 2563 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หากเทียบกับปี 2562 ที่สำรองอยู่ระดับต่ำเพียง 2.9 พันล้านบาท แต่สำรองที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ไม่ได้มาจากหนี้เสียที่เพิ่มขึ้น แต่มาจากการตั้งสำรองตามพอร์ตสินเชื่อของธนาคารที่คาดว่าจะเติบโตมากขึ้น
ทั้งนี้ หากดูสำรองปี 2562 ที่ผ่านมาลดลงมาเหลือ 2.9 พันล้านบาท ถือว่าเป็นการลดลงอย่างมีนัยคัญ ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่าธนาคารผ่านจุดต่ำสุดของวงจรหนี้เสียไปแล้ว ขณะที่แนวโน้มหนี้เสียปี 2563 คาดว่ามีโอกาสต่ำกว่าระดับ 5% จากการลดพอร์ตสินเชื่อเอสเอ็มอีเหลือ 2.6 หมื่นล้านบาทในช่วง 2-3ปีที่ผ่านมา จากเดิมที่มีกว่า 5 หมื่นล้านบาท ทำให้ธนาคารบริหารความเสี่ยงได้ดีขึ้น