UNHCR ปลื้ม ครม.ไฟเขียวตั้งระบบคัดกรองบุคคล
ยูเอ็นเอชซีอาร์ชื่นชม ครม.อนุมัติตั้งระบบคัดกรองบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับความคุ้มครองระหว่างประเทศ
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) แสดงความชื่นชมต่อการที่คณะรัฐมนตรีมีมติ ณ วันที่ 24 ธันวาคม 2562 อนุมัติการจัดตั้งระบบเพื่อคัดกรองบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับความคุ้มครองระหว่างประเทศ ตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 17 มกราคม 2560 ที่เห็นชอบในหลักการให้จัดตั้งและปรับใช้ระบบดังกล่าว
นายจูเซ็ปเป้ เด วินเซ็นทิส ผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย กล่าวว่า มติคณะรัฐมนตรีนี้แสดงให้เห็นถึงคำมั่นของรัฐบาลไทย ในการดำเนินการให้ความคุ้มครองต่อผู้ลี้ภัยและผู้ขอลี้ภัยในอาณาเขตของไทย
“สิ่งสำคัญของระบบคัดกรองคือการนำมาปรับใช้ตามหลักมาตรฐานระหว่างประเทศและหลักการการขอลี้ภัย โดยสำนักงานข้าหลวงใหญ่ฯ พร้อมสนับสนุนรัฐบาลไทยในเรื่องนี้อย่างเต็มที่”
ทั้งนี้ ประเทศไทยมิได้เป็นภาคีในอนุสัญญาผู้ลี้ภัย ค.ศ. 1951 และไม่มีกฏมายว่าด้วยผู้ลี้ภัยอย่างเป็นทางการ ด้วยเหตุนี้ผู้ลี้ภัยและผู้ขอลี้ภัยซึ่งมิได้มีสิทธิตามกฏหมายที่จะพำนักในประเทศไทย จึงมีสถานะเป็นคนเข้าเมืองผิดกฏหมาย
อย่างไรก็ตาม หากระบบคัดกรองบุคคลมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ จะทำให้บุคคลที่จำเป็นต้องได้รับความคุ้มครองระหว่างประเทศสามารถพำนักในประเทศไทยได้เป็นการชั่วคราว และทำให้ความคุ้มครองผู้ลี้ภัยเสถียรมากขึ้น
มติคณะรัฐมนตรีนี้มีขึ้นหลังจากรัฐบาลไทยได้ให้คำมั่นในการเสริมสร้างความสามารถและทักษะให้เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องในการนำระบบคัดกรองมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่ให้ไว้ระหว่างการประชุมระดับโลกว่าด้วยเรื่องผู้ลี้ภัย (Global Refugee Forum: GRF) จัดโดยสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติเป็นครั้งแรก ณ นครเจนีวา เมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเคยให้คำมั่นเรื่องการจัดตั้งระบบคัดกรองดังกล่าว ที่เวทีีการประชุมสุดยอดผู้นำเรื่องผู้ลี้ภัยโลก ณ องค์การสหประชาชาติ นครนิวยอร์ก เมื่อเดือน ก.ย.2559