ประชาชนระวังใช้จ่ายปีใหม่ เงินสะพัด 1.37 ล้านบาท ขยายตัวต่ำสุดรอบ 14 ปี

ประชาชนระวังใช้จ่ายปีใหม่ เงินสะพัด 1.37 ล้านบาท ขยายตัวต่ำสุดรอบ 14 ปี

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รายงานผล สำรวจพฤติกรรมใช้จ่ายของประชาชน ช่วงปีใหม่ 2563 อยู่ที่ 137,809 ล้านบาท ขยายตัว 1.9% ต่ำสุดในรอบ 14 ปี เพราะประชาชนใช้จ่ายระมัดระวังมากขึ้น

นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลปีใหม่ จากกลุ่มตัวอย่าง 1,223 ตัวอย่างทั่วประเทศ คาดว่าประชาชนจะมีการใช้จ่ายรวม 137,809 ล้านบาท เป็นมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์ ขยายตัว 1.9% แต่ถือว่าเป็นการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 14 ปี นับตั้งแต่มีการสำรวจ

เมื่อพิจารณารายละเอียดพบว่าการใช้จ่ายในกรุงเทพฯ อยู่ที่ 58,000 ล้านบาท และต่างจังหวัดอยู่ที่ 79,000 ล้านบาท โดยแหล่งที่มาของเงินเพื่อนำไปใช้จ่าย คือ เงินเดือน รายได้ปกติ เงินออม โบนัส รายได้พิเศษ 

ในขณะที่พฤติกรรมใช้จ่ายส่วนใหญ่ เป็นการใช้จ่ายสำหรับตนเอง 24.6% เพิ่มมากขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อน รองลงมาใช้จ่ายสำหรับผู้อื่น 1.3% ซึ่งกิจกรรมที่ทำในช่วงปีใหม่ คือ ทำบุญทางศาสนา สังสรรค์ จัดเลี้ยง ท่องเที่ยว สินค้าฟุ่มเฟือย เช่น เครื่องประดับ ทอง เสื้อผ้า รองเท้า รวมทั้งซื้อสินค้าคงทน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ในครัวเรือน ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล

ส่วนของขวัญยอดนิยมในช่วงเทศกาลปีใหม่ อันดับ 1 เป็นของรับประทาน รองลงมาเป็นสินค้าคงทน เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเรือน เครื่องดื่มสำหรับบำรุงร่างกาย กระเช้าของขวัญ เครื่องประดับและทอง กระเช้าผลไม้ ซึ่งปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อของขวัญให้กับตนเองจะพิจารณาจากคุณภาพ เป็นอันดับแรก รองลงมาเป็นราคา ประโยชน์ ในการนำไปใช้งาน โปรโมชั่น ยี่ห้อ การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ความสะดวก ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการซื้อสินค้าให้ตนเองและผู้อื่น พบว่าลดลงอยู่ที่ 74.1%

สำหรับพฤติกรรมการท่องเที่ยวประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ พบว่า ประชาชนวางแผนออกนอกพื้นที่ โดยจะไปเที่ยวต่างประเทศเพียง 15.3% เน้นท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศ เอเชีย ตามมาด้วยยุโรป ออสเตรเลีย และอเมริกา 

ขณะที่ในประเทศท่องเที่ยวมากถึง 84.7% ส่วนใหญ่เน้นไปเที่ยวภาคเหนือ เช่น เชียงใหม่ เชียงราย เพชรบูรณ์ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นต้องการไปเที่ยว อันดับแรก คือ ภูเขา ตามด้วยทะเล วัด น้ำตก และโบราณสถาน และเมื่อถามว่าภาวะเศรษฐกิจ ในปัจจุบันมีผลต่อการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่หรือไม่ ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่า มีผลอย่างมากถึง 30.2%

157726931911

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า เงินสะพัดในช่วงเทศกาลปีใหม่ 137,809 ล้านบาท ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 14 ปี ชี้ให้เห็นว่า ประชาชนกังวลกับสภาวะเศรษฐกิจ และรู้สึกว่าเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว จึงทำให้ใช้จ่ายระมัดระวัง โดยเห็นได้จากจำนวนของที่จะซื้อในช่วงเทศกาลปีใหม่น้อย เพราะราคาสินค้าแพงขึ้น แต่ก็ยังมีความคึกคักพอกับปีที่แล้ว

รวมทั้งการขยายตัวต่ำสุด 14 ปี สอดคล้องกับการคาดการณ์จีดีพีปี 2562 ที่จะขยายตัวเพียง 2.6% โดยปีหน้าประชาชน ยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย แต่น่าจะดีขึ้นเล็กน้อย เพราะยังมีความเสี่ยงจากหลายปัจจัย ซึ่งมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยคาดว่า เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้ในไตรมาสที่ 2 หลังมีการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 และมาตรการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ยังคาดการณ์จีดีพีปีหน้าจะขยายตัว 3%

ส่วนประเด็นที่ต้องการให้รัฐบาลดำเนินการปี 2563 คือ แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน โดยควบคุมราคาสินค้าจำเป็นต่อชีวิตประจำวัน จัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ รองลงมา เป็นการพัฒนาการศึกษา ดูแลค่าครองชีพให้เหมาะสม การเข้าถึงแหล่งเงินทุน เงินกู้ การดูแลการมีงานทำ การดูแลค่าเงินให้มีเสถียรภาพ เร่งการลงทุนภาครัฐและเอกชน เร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 ความมีเสถียรภาพทางการเมือง

ในขณะที่ปัจจัยที่น่าห่วงในปี 2563 อันดับแรก คือ ด้านเศรษฐกิจ รองลงมา เป็นเรื่องการศึกษา สุขอนามัย ค่าครองชีพ ปัญหาเยาวชน ปัญหาคอร์รัปชัน การตกงาน และการเมือง

นอกจากนี้ประชาชนยังได้ประเมินผลงานรัฐบาลในการแก้ไขปัญหารัฐบาลด้านต่างๆ ของรัฐบาลในรอบปีที่ผ่านมา จากคะแนนเต็ม 10 พบว่า อันดับแรก การเตรียมความพร้อมรับมือภัยธรรมชาติได้คะแนน 7.67 รองลงมาเป็น ปัญหาสังคม 6.23 การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ได้คะแนน 5.56 ปัญหาคอร์รัปชันได้คะแนน 5.81 และปัญหาความขัดแย้งได้คะแนน 5.34

ส่วนรัฐมนตรีที่ประชาชนอยากให้ของขวัญเป็นกำลังใจมากที่สุด คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รองลงมาเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รวมทั้งนักการเมือง ที่ประชาชนอยากไปท่องเที่ยวด้วยมากที่สุด คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค อนาคตใหม่ รองลงมาเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี 

ขณะที่นักแสดงที่ประชาชนอยากให้ของขวัญมากที่สุด ฝ่ายชาย อันดับ 1 คือ ณเดชน์ คูกิมิยะ รองลงมาเป็น เกรท วรินทร และ มาริโอ้ เมาเร่อ ส่วนฝ่ายหญิง อันดับ 1 คือ ญาญ่า อุรัสยา รองลงมาเป็น อัม พัชราภา และใหม่ ดาวิกา

นักร้องฝ่ายชาย อันดับ 1 คือ ตูน บอดี้สแลม รองลงมาเป็น เบิร์ด ธงไชย และ ไผ่ พงศธร ส่วนฝ่ายหญิงอันดับ 1 คือ ต่าย อรทัย รอง ลงมาเป็น ปาล์มมี่ และ อาม ชุติมา