7 คดีสำคัญโบว์แดง 'ดีเอสไอ' ย้ำปีนี้สอบสวนคดีพิเศษเสร็จ 185 เรื่อง

7 คดีสำคัญโบว์แดง 'ดีเอสไอ' ย้ำปีนี้สอบสวนคดีพิเศษเสร็จ 185 เรื่อง

"ดีเอสไอ" โชว์ผลงานคดีอาชญากรรมเศรษฐกิจ ยก 7 คดีสำคัญผลงานโบว์แดง กวาดจับขบวนการนำเข้ารถหรูสำแดงเท็จ 207 สำนวน ตามฟ้องฟิลิปมอริสเลี่ยงภาษีนำเข้าบุหรี่ยกแรกศาลสั่งปรับ 1,200 ล้าน คดีสหกรณ์คลองจั่น-ธรรมกาย 27 คดี เหลือค้างอีก 9 คดี

พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยถึงผลการดำเนินคดีพิเศษด้านอาชญากรรมทางเศรษฐกิในรอบปี 2562 สอบสวนแล้วเสร็จ 185 คดี ประกอบด้วยคดีสำคัญ ดังนี้ 1 คดีการลักลอบนำเข้ารถยนต์หรูโดยสำแดงเท็จ หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีศุลกากร ซึ่งดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ รวม 207 เรื่อง ดำเนินการแล้วเสร็จ 135 เรื่อง โดยสรุปสำนวนมีความเห็นสั่งฟ้องพร้อมนำตัวผู้ต้องหาส่งให้อัยการแล้ว และยังมีคดีที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ 72 เรื่อง

2 คดีการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ในการชักชวนให้ร่วมลงทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (FOREX 3D) ซึ่งดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษที่ 1532562 และได้ติดตามยึดอายัดทรัพย์สินที่ต้องสงสัยว่าได้มาจากการกระทำความผิดมูลค่าประมาณ 750 ล้านบาท

3 คดีการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ในการชักชวนให้ร่วมออมเงินผ่านทางโซเชียลมีเดียในชื่อ“แชร์แม่มณี”ซึ่งมีผู้เสียหายประมาณ 4,000 ราย มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 1,300 ล้านบาท ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษรับเป็นคดีพิเศษที่ 1502562 และได้ติดตามยึดอายัดทรัพย์สินที่ต้องสงสัยว่าได้มาจากการกระทำความผิดมูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท

4 คดีการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ในการชักชวนประชาชนทั่วไปที่ใช้ระบบสังคมออนไลน์ (Facebook) ให้กดถูกใจ กดแบ่งปัน และแสดงความคิดเห็นเชิงบวกแก่งานโฆษณาบนเฟซบุ๊ก หรือแชร์ไนซ์รีวิวซึ่งต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสมัครสมาชิกด้วยอัตราที่สูงและจะมีการกำหนดค่าตอบแทนเป็นลำดับชั้น โดยจ่ายเป็นเงินสดในช่วงแรกและเปลี่ยนมาจ่ายค่าตอบแทนให้เป็นเงินสกุล NRV ที่มีมูลค่าลดลงจนเหลือมูลค่า 0 บาท ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเป็นคดีพิเศษที่ 1612562 โดยมีผู้เสียหายจำนวน 2,060 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 368 ล้านบาท และได้ติดตามยึดอายัดทรัพย์สินที่ต้องสงสัยว่าได้มาจากการกระทำความผิดมูลค่าประมาณ 180 ล้านบาท

5 คดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นและวัดพระธรรมกาย รับเป็นคดีพิเศษทั้งสิ้นจำนวน 27 คดี ดำเนินการแล้วเสร็จ 18 คดี แยกส่งพนักงานอัยการจำนวน 15 คดี และส่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จำนวน 2 คดี รวมสำนวน 1 คดี และอยู่ระหว่างดำเนินการ 9 คดี

6 คดีนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ถวายที่ดินให้พระเทพญาณมหามุนี หรือธัมมชโย หรือนานไชยบูลย์ สุทธิผล โดยมีนายอนันต์ อัศวโภคิน เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แทน อันอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ซึ่งรับเป็นคดีพิเศษที่ 102560 โดยล่าสุด อธิบดีดีเอสไอ ได้พิจารณาข้อเท็จจริงที่ได้จากการสอบสวนและความเห็นของพนักงานอัยการ มีความเห็นแตกต่างจากพนักงานอัยการโดยเห็นว่าข้อเท็จจริงยังฟังได้ว่าผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้กระทำความผิดตามที่ได้มีความเห็นควรสั่งฟ้องไปแล้ว จึงได้มีความเห็นแย้งความเห็นของพนักงานอัยการให้ฟ้องนายอนันต์ ตามข้อกล่าวหาส่งพนักงานอัยการ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างอัยการสูงสุดพิจารณาว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง อันเป็นความเห็นชี้ขาดตามกฎหมาย

7 คดีการนำเข้าบุหรี่ต่างประเทศโดยสำแดงเอกสารนำเข้าอันเป็นเท็จ (ต่ำกว่าความเป็นจริง)ของบริษัท ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด ซึ่งศาลอาญาได้มีคำพิพากษาสรุปได้ว่า การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดฐานสำแดงราคานำเข้าบุหรี่อันเป็นเท็จเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี ตามพ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 ปรับเป็นเงินจำนวน 4 เท่า เป็นเงิน 1,225,990,617 บาท และยกฟ้องจำเลย 2 - 8 ทั้งนี้ สำหรับการนำเข้าบุหรี่ของนิติบุคคลฟิลลิป มอร์ริส ฯ ยังมีกรณีการนำเข้ายี่ห้อมาร์ลโบโร่ และแอลแอนด์เอ็ม จากบริษัท พีที ฟิลลิป มอร์ริส อินโดนีเซีย (PTPMI) โดยเป็นการนำเข้าระหว่างปี พ.ศ. 2543 - 2546 จำนวน 1,052 ใบขน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบพยานจำเลย โดยคาดว่าจะมีคำพิพากษาประมาณเดือนมกราคม 2563