'วิษณุ' แนะ' ศักดิ์สยาม' ทำตามกม. แนวทางยุติพิพาท 'ด่วนบีอีเอ็ม'

'วิษณุ' แนะ' ศักดิ์สยาม' ทำตามกม. แนวทางยุติพิพาท 'ด่วนบีอีเอ็ม'

“ศักดิ์สยาม” ชี้ปมแลกหนี้ไม่เข้า ครม. เหตุ “วิษณุ” แนะเดินหน้าทำร่างสัญญาให้แล้วเสร็จ กทพ.เตรียมชงบอร์ดไฟเขียวแนวทาง 26 ธ.ค.นี้ มั่นใจแล้วเสร็จ ชงเข้า ครม.ภายใน ม.ค.63 กทพ.ทุ่มงบ 1.5 หมื่นล้าน เดินหน้าสร้างด่วนขั้น 3 เตรียมเปิดประมูลปี 63

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอแนวทางยุติข้อพิพาททางด่วน ระหว่างการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (บีอีเอ็ม) ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 24 ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่ครม.ไม่ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าว ว่า ครม. ไม่ได้เป็นการตีตกการพิจารณาเพราะยังไม่ได้มีการเสนอเข้าสู่การพิจารณาเพราะไม่อยู่ในวาระการประชุม ครม.

 เนื่องจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นว่าเรื่องนี้ ไม่จำเป็นต้องนำแนวทางมาเสนอให้ ครม.พิจารณา แต่ควรกลับไปทำรายละเอียดให้สมบูรณ์กว่านี้ โดยขอให้ กทพ.เจรจาแนวทางทั้งหมดร่วมกับบีอีเอ็มพร้อม จัดทำร่างสัญญาและรายงานคณะกรรมการกำกับตาม ม.43 ร่วมถึงส่งร่างสัญญาไปยังอัยการให้ตรวจสอบด้วย

“ท่านรองวิษณุให้ความเห็นว่าเรื่องนี้ ควรจะไปทำตามกระบวนการทางกฎหมายให้เรียบร้อย เสนอเป็นร่างสัญญากลับเข้ามาให้ ครม.พิจารณาเลย ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ กทพ.จะต้องเสนอแนวทางยุติข้อพิพาทให้กับบอร์ด กทพ.พิจารณาก่อน คาดว่าจะประชุมในวันที่ 26 ธ.ค.นี้ ส่วนตัวผมยังคิดว่าแนวทางยุติข้อพิพาทที่ทำมาดีแล้ว อย่างที่ปลัดเคยบอกว่ามันเป็นซุปเปอร์ดีล ผมก็คิดแบบนั้นจริงๆ”

สำหรับเงื่อนไขของการก่อสร้างทางด่วนชั้นที่ 2 (Double Deck) ยืนยันว่าตอนนี้ยังไม่ได้ตัดโครงการทิ้ง แต่จะนำมาพิจารณาหลังจากนี้ เพราะเรื่องที่มีความเร่งด่วนในปัจจุบัน คือเรื่องยุติข้อพิพาท รวมทั้งตนยังมองว่าการแก้ไขปัญหาจราจรบนทางด่วน ตามแผนของ กทพ.มีโครงการ Double Deck อีกหลายส่วน ดังนั้นกระทรวงฯ จะเสนอ ครม.เพื่อทำการศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาจราจรทางด่วนทั้งระบบ

ส่วนก่อสร้างสร้าง Double Deck ที่ทางเอกชนเคยยื่นข้อเสนอว่าจะก่อสร้างให้ฟรีนั้น ส่วนตัวมองว่าไม่ใช่โครงการฟรี เพราะเอกชนจะได้สัมปทานไปอีก 15 ปี รวมเป็น 30 ปี ประกอบกับเรื่องนี้ยังไม่สามารถก่อสร้างได้ทันที และโครงการยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษาขั้นแรก

ขณะเดียวกัน กทพ.อยู่ระหว่างเตรียมพัฒนาทางด่วนโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3(สายเหนือและสายใต้) สายเหนือ ตอน N2 ระยะทาง 11.3 กิโลเมตร (กม.) ซึ่งจะเป็นโครงการที่เชื่อมต่อแนวเส้นทางของทางด่วนฝั่งตะวันออก และตะวันตกได้เป็นอย่างดี 

คาดการณ์ว่าจะช่วยกระจายปริมาณรถยนต์ได้มากถึง 40% จะช่วยลดความแออัดบนทางด่วนขั้นที่ 2 ได้เป็นอย่างดี ดังนั้น กทพ.จึงจะต้องกลับมาศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาจราจรทั้งระบบอีกครั้ง

157719419842 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การยุติข้อพิพาททางด่วน ซึ่งได้ข้อสรุปขยายอายุสัมปทานทางด่วน 3 สัญญา เพื่อยุติข้อพิพาทที่ กทพ.และบีอีเอ็มมีต่อกันทั้งหมดรวม 17 คดี มูลค่าข้อพิพาทกว่า 58,873 ล้านบาท

นายวิชาญ เอกรินทรากุล รองผู้ว่าการฝ่ายกลยุทธ์และแผนงาน การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 1 งานจัดทำรายงานการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3(สายเหนือและสายใต้) สายเหนือ ตอน N2 ระยะทาง 11.3 กิโลเมตร (กม.) วงเงินลงทุน 1.5 หมื่นล้านบาท ว่า คาดว่าจะจัดทำรายละเอียดแล้วเสร็จประมาณเดือน ก.ค. – ส.ค. 2563 หลังจากนั้นจึงจะเสนอสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) และคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ (กบร.) เพื่อเตรียมพื้นที่งานก่อสร้าง

ขณะที่แนวทางการจัดใช้งบประมาณก่อสร้าง เบื้องต้น กทพ.มีแนวคิดที่จะจัดใช้วงเงินจากกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ (ทีเอฟเอฟ) โดยเตรียมเสนอขออนุมัติหลักการจากคณะกรรมการ (บอร์ด) ในวันที่ 26 ธ.ค.นี้ 

หากบอร์ดเห็นชอบก็จะส่งเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอครม.ตั้งเป้าหมายจะเปิดประกวดราคาได้ประมาณปลายปี 2563 หรือไม่เกินต้นปี 2564 ใช้เวลาก่อสร้าง 2-3 ปี แล้วเสร็จและเปิดให้บริการประมาณปี 2566