ครม.เข้มกฎนำเข้าซากสัตว์ป้อง ไข้หวัดหมูแอฟริกา

ครม.เข้มกฎนำเข้าซากสัตว์ป้อง ไข้หวัดหมูแอฟริกา

ครม. ไฟเขียวกฎกระทรวงป้องกันไข้หวัดหมูแอฟริกา กำหนดให้นำเข้าซากสัตว์เฉพาะที่ท่า พร้อมแนบใบรับรอง หากพบเชื้อให้ทำลายภายในท่าเท่านั้น

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าสืบเนื่องมาจากสถานการณ์โรคไข้หวัดหมูแอฟริกา หรือ “ASF” แพร่ระบาดในหลายประเทศในเอเชีย รวมทั้งประเทศเพื่อนบ้านของไทย  แม้ขณะนี้ยังไม่รุกลามเข้ามาในประเทศ  แต่เพื่อเป็นการป้องกันไม้ให้มีการระบาดเกิดขึ้น ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (24ธ.ค.) จึงเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ

โดยกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการนำเข้า ส่งออกหรือนำผ่านประเทศไทย จะกระทำได้เฉพาะผ่านในอาณาเขตท่าเข้าหรือท่าออกเท่านั้น   ภายใต้เงื่อนไขให้อธิบดีกรมปศุสัตว์เป็นผู้มีอำนาจออกประกาศกำหนดพื้นที่ตรวจโรคและทำลายเชื้อโรค สำหรับสัตว์หรือซากสัตว์ภายในบริเวณท่าเข้าหรือท่าออก 

ผู้ประสงค์จะนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านสัตว์หรือซากสัตว์ต้องยื่นคำขออนุญาตต่ออธิบดี หรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย และให้สัตวแพทย์ประจำท่าเข้าตรวจสอบหนังสือรับรองสุขภาพสัตว์ หรือหนังสือรับรองสุขศาสตร์ซากสัตว์ ซึ่งออกโดยสัตวแพทย์ของประเทศที่นำสัตว์หรือซากสัตว์นั้นมา

หากไม่มีหนังสือรับรองหรือมี แต่การรับรองไม่ครบถ้วน หรือไม่ตรงตามเงื่อนไขฯ ให้สัตวแพทย์ฯมีหน้าที่ตรวจโรคและเก็บตัวอย่างจากสัตว์หรือซากสัตว์ที่จะนำเข้ามาในประเทศ เพื่อทดสอบโรคได้ และให้กักสัตว์ไว้สังเกตอาการภายในระยะเวลาที่กำหนด หากพบโรคหรือพาหะของโรคระบาด ให้สัตวแพทย์ฯประจำท่าเข้า ดำเนินการทำลายหรือจัดการโดยวิธีที่เหมาะสม

ทั้งนี้ร่างกฎกระทรวง ดังกล่าว มีผลใช้บังคับเมื่อพ้น 120วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาประกาศใช้ เพื่อให้เวลาแก่ผู้ประกอบการได้มีเวลาเตรียมความพร้อม และต้องแจ้งให้องค์การการค้าโลก ( WTO) รับทราบด้วย โดยทวีปเอเชียพบการระบาด 11 ประเทศ คือ มองโกเลีย เวียดนาม กัมพูชา เกาหลีเหนือ  ลาว  เมียนมา ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้ ติมอร์-เลสเต และอินโดนีเซีย ส่วนไทยได้เฝ้าระวัง ร่วมกับภาคเอกชน องค์กรระหว่างประเทศ OIE , FAO พร้อมทัั้งยกระดับเป็นแผนวาระแห่งชาติ มีการจัดตั้ง War Room ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ซ้อมรับมือทุกจังหวัดทั่วประเทศ