ค้าปลีกเร่งบูม 'ออนไลน์' ชี้ 3 ปียอดโตก้าวกระโดด

ค้าปลีกเร่งบูม 'ออนไลน์' ชี้ 3 ปียอดโตก้าวกระโดด

"ค้าปลีก" พลิกกลยุทธ์ลุยออมนิแชนแนล บุกหนัก "ออนไลน์" เสริมแกร่งออฟไลน์ รับเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่นิยมสะดวก ซื้อทุกช่องทาง ทุกที่ ทุกเวลา ชี้เทรนด์ตลาดเปลี่ยนเร็ว ยอดขายออนไลน์โตก้าวกระโดดจากสัดส่วน 1-5% แตะ 15% ใน 3 ปี

ความนิยม "ช้อปปิ้งออนไลน์" ขยายตัวอย่างรวดเร็วในทุกกลุ่มลูกค้า ไม่จำกัดเฉพาะ "คนรุ่นใหม่" ที่ใช้ชีวิตอยู่บนโลกออนไลน์ทั้งการรับข้อมูลข่าวสาร การทำธุรกรรม และจับจ่ายใช้สอยที่พร้อมเสิร์ฟตั้งแต่อาหาร เครื่องดื่ม สินค้าและบริการต่างๆ ทุกที่ ทุกเวลา ส่งผลกระทบต่อบรรดาห้างร้านค้าปลีกต่างๆ ต้องเร่งพลิกกลยุทธ์สร้างการเติบโตคู่ขนานแม้วันนี้ยอดขายจาก "ออนไลน์" ยังมีสัดส่วนน้อยแต่ประเมินกันว่าอนาคตอันใกล้ตลาดจะเปลี่ยนแปลงแบบเห็นได้ชัด


อ่านข่าวเพิ่มเติม : 


'ยักษ์จีน' ฮุบอีคอมเมิร์ซไทย จี้รัฐเข้มกำกับก่อนลามกระทบภาคผลิต-ค้าปลีกทั้งระบบ

'รูดบัตร' ช้อปออนไลน์พุ่ง 'คลัง'อุดช่องโหว่รีดภาษี

'ภาษีดิจิทัล' ดาบสองคมธุรกิจออนไลน์

นางสาววรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า กลุ่มเดอะมอลล์วางกลยุทธ์ ไDigitization" มุ่งนำเทคโนโลยีและดิจิทัลมาใช้ในการทำการตลาดแบบครบวงจร ทั้งออฟไลน์และออนไลน์อย่างไร้รอยต่อ ผ่านเครื่องมือ เอ็มการ์ด แอพพลิเคชั่น (M Card Application) หรือ ไลน์ แอพพลิเคชั่น (Line Application) ซึ่งจะมีอีคูปอง (E-Coupon) มอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้านำกลับมาใช้จ่ายในช่องทางออฟไลน์ ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้า

"ทุกพื้นที่ภายในศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าต้องเป็น Seamless Touchpoint รวมถึงโปรโมชั่นพิเศษที่มอบให้กับลูกค้าต้องเหมือนกันทั้งออนไลน์และออฟไลน์"

ประการสำคัญ ต้องสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ (Seamless) ที่ผสานการช้อปปิ้งของศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า รวมถึงการตกแต่งบรรยากาศ และการจัดอีเวนท์เพื่อสร้างสีสันและดึงลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วม (Engagement) ให้มากที่สุด เพื่อใช้เวลา (Time Spend) หรือใช้ชีวิตอยู่ภายในศูนย์เพิ่มมากขึ้น นำมาซึ่งโอกาสในการจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มมากขึ้นไปด้วย

  • "แชทแอนด์ช้อปดึงลูกค้าสู้ออนไลน์

หนึ่งในเครื่องมือทางการตลาดของเดอะมอลล์มีบริการพิเศษ เอ็มการ์ด แชท แอนด์ช้อป (M Card Chat & Shop) ผู้ช่วยส่วนตัวนักช้อป "แชทมา ช้อปให้ ส่งถึงที่" เป็นบริการโซเชียลคอมเมิร์ซ (Social Commerce) ผ่านไลน์แอพพลิเคชั่น ซึ่งลูกค้าสามารถแชทโต้ตอบกับพนักงาน สั่งซื้อสินค้าได้ทุกชิ้นทุกแผนกภายในห้างเสมือนมาช้อปด้วยตัวเอง

ปัจจุบันมีลูกค้าแชทเข้ามามากกว่า 200 ข้อความต่อวัน และเกิดการซื้อขายมากกว่า 800 ออเดอร์ต่อเดือน ซึ่งลูกค้าที่ใช้บริการมีทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเดือน ต.ค.ที่ผ่านมามียอดขายมากกว่า 15 ล้านบาท สินค้าที่ได้รับความนิยมในการสั่งซื้อ ได้แก่ เครื่องสำอาง, เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก, มือถือ แก็ดเจ็ต และของตกแต่งบ้าน เป็นต้น 

ในปี 2563 เอ็มการ์ด แชทแอนด์ช้อป ตั้งเป้าหมายลูกค้าใช้บริการ 1,000 ออเดอร์ต่อเดือน หรือคิดเป็นยอดขายมากกว่า 50 ล้านบาท เน้นขยายไปยังต่างจังหวัดที่เดอะมอลล์ไม่มีสาขาให้บริการ

สำหรับช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ เอ็มการ์ดแชทแอนด์ช้อป จัดโปรโมชั่นรับส่วนลด 500 บาท เมื่อช้อปสินค้าครบ 3,000 บาทต่อใบเสร็จ ระหว่างวันที่ 1 พ.ย.2562- 10 ม.ค. 2563 จำกัด 300 ท่านแรก

  • "เซ็นทรัลตั้งเป้าผู้นำออมนิแชนแนล

นางณัฐธีรา จิราธิวัฒน์ บุญศรี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล จะใช้ความแข็งแกร่งของเครือข่ายร้านค้า "ออฟไลน์" หรือห้างเซ็นทรัล ต่อยอดสร้างความได้เปรียบในการรุกแพลตฟอร์มออนไลน์สร้างการเข้าถึงลูกค้าทุกช่องทาง หรือนิแชนแนล โดยเซ็นทรัลตั้งเป้าหมายก้าวสู่ผู้นำ "ออมนิแชนแนลห้างสรรพสินค้า" ของไทยอีกด้วย

"เรานำจุดแข็งความผูกพันกับแบรนด์เซ็นทรัลกว่า 70 ปี มีความคุ้นเคยและไว้ใจ ให้ลูกค้าเลือกใช้บริการด้วยความมั่นใจ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจออนไลน์"

ที่ผ่านมา ห้างเซ็นทรัลได้ใช้งบกว่า 250 ล้านบาท รีแบรนด์เว็บไซต์ central.co.th ในคอนเซปต์ "MY CENTRAL IS NOW" ให้บริการครบทุกหมวดสินค้า ได้แก่ เครื่องสำอาง เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก สินค้าแม่และเด็ก สปอร์ต และแก็ดเจ็ตเสมือนยกห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลมาไว้ในหน้าจอ เปรียบได้กับอีก 1 สาขา ขณะเดียวกัน สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งด้วย แบรนด์สินค้าเอ็กซ์คลูซีฟ อาทิ แบรนด์หรู จิออร์จิโอ อาร์มานี, เนสเปสโซ และดิลองกี้ รวมถึงสินค้าเฮ้าส์แบรนด์ระดับท็อป เช่น โดโรธี เพอร์กินส์, มาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์, มินิโมโนะ และ ซานริโอ เป็นต้น

  • ปี 64 ขายออนไลน์สัดส่วน 15%

นอกจากนี้ ห้างเซ็นทรัลยังได้พัฒนาบริการ เซ็นทรัล แชทแอนด์ช้อป (Central Chat & Shop) ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ มีการตอบรับที่ดีด้วยยอดขาย 250 ล้านบาทในปี 2561 สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 111% คาดปีนี้จะมียอดขาย 500 ล้านบาท เติบโต 100% ขณะที่เว็บไซต์ central.co.th คาดสิ้นปีนี้จะมียอดขาย 1,500 ล้านบาท เติบโต 150% จากปีก่อน

ภายในปี 2564 ธุรกิจออนไลน์จะสร้างยอดขาย 15% ของยอดขายทั้งหมดของห้างเซ็นทรัล สูงเป็นอันดับ 1 ด้วยมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านบาท เหนือสาขา "ชิดลม" ที่มีรายได้สูงสุดในปัจจุบันที่ 10,000 ล้านบาท ขณะที่รายได้รวมห้างเซ็นทรัลคาดการณ์ปีนี้ปิดยอด 45,000 ล้านบาท 

  • ค้าปลีกสู่แพลตฟอร์ม "อีบิสสิเนส"

นายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ ผู้อำนวยการสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า ผู้ค้าปลีกจำเป็นต้องเร่งทรานส์ฟอร์มธุรกิจใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเสริมแกร่งองค์กรและเครื่องมือสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน ภายใต้โมเดลธุรกิจใหม่ที่เรียกกันว่าอี-บิสสิเนส (E-Business) หรือที่รู้จักกันดีในรูปแบบออฟไลน์ทูออนไลน์ (O2O) หรือออมนิแชนแนล (Omni Channel) ซึ่งเป็นการเชื่อมห้างร้านในโลกออฟไลน์เข้ากับเทคโนโลยีออนไลน์ นอกจากใช้ประโยชน์จากความสะดวกสบายในการจับจ่ายใช้สอยสินค้าและชำระเงินออนไลน์ ยังสามารถเก็บข้อมูลผู้บริโภคมหาศาล อีกด้านหนึ่งสามารถใช้จุดแข็งของห้างร้านที่มีสินค้าจริงให้คนได้สัมผัสและทดลอง รวมทั้งยังเป็นพื้นที่สำหรับเดินเล่นหรือนัดพบสังสรรค์กับเพื่อนได้ด้วย

The competitive direction of the retail business is moving towards another big wave of change. Previously focusing on mass marketing (Mass Marketing), turned to focus only on the real customers themselves. Or is a one-on-one marketing through various platforms such as mobile applications Each operator must present campaigns and promotions to meet the needs of specific customers. 

"Big steps from now If the store wants to reach customers easily, quickly, anytime, anywhere Must bring yourself into the mobile application on the smartphone The 5 essential necessities of life Which will allow customers to buy with us anytime, anywhere. "