'พาณิชย์' ฝ่าวิกฤตส่งออก สร้างผู้ประกอบรุ่นใหม่ลุยตลาด

'พาณิชย์' ฝ่าวิกฤตส่งออก สร้างผู้ประกอบรุ่นใหม่ลุยตลาด

“พาณิชย์” ดัน 4 กลยุทธ์ขยายตลาด เร่งสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ลุยตลาดส่งออก เน้นสตาร์ทอัพ กลุ่มผู้สูงอายุ

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ปี 2563 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จะเดินหน้าผลักดันการส่งออก 4 กลยุทธ์ คือ

1.การพัฒนาช่องทางตลาดโดยจะจัดคณะผู้แทนการค้าเดินทางไปขยายตลาด ได้แก่ ตลาดเดิม (จีน ญี่ปุ่น เยอรมนี อังกฤษ สหภาพยุโรป) ตลาดใหม่ (อินเดีย ตุรกี ศรีลังกา บังคลาเทศ แอฟริกาใต้) และตลาดฟื้นฟู (ตะวันออกกลาง) 

โดยจะเจาะตลาดลงลึกรายมณฑลและรายรัฐในตลาดใหญ่ ซึ่งจะนำทีมโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะ “เซลส์แมนประเทศ” โดยจัดคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและเอกชนเดินทางไปขยายตลาด มีเป้าหมาย 16 ทริป 18 ประเทศ

ส่วนช่องทางการขยายตลาดอื่นจะเน้นจัดกิจกรรมร่วมกับผู้นำเข้าและนักธุรกิจในต่างประเทศเพื่อสร้างความต้องการสินค้าและบริการที่มีศักยภาพของไทย โดยขยายความร่วมมือกับห้างสรรพสินค้าชั้นนำของไทย เพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับสินค้าที่ผ่านการบ่มเพาะจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

รวมทั้งขยายร้าน TOPTHAI Flagship Store เพิ่มเติม เพื่อขยายตลาดสินค้าไทยในจีน และจะขยายบนแพลตฟอร์มในตลาดอื่นๆ เช่น Bigbasket (อินเดีย) Amazon.com (สหรัฐ) Amazon.jp (ญี่ปุ่น) และ Presto Mall (มาเลเซีย)

2.พัฒนาผู้ประกอบการ จะผลักดันกลุ่มเป้าหมายใหม่ให้เป็นผู้ส่งออก เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มสตาร์ทอัพ กลุ่มชาติพันธุ์ และยังมีแผนร่วมมือกับสถาบันการศึกษา จัดทำหลักสูตรการศึกษาวิชาบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ การส่งออก การเจรจาธุรกิจ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาที่จะก้าวมาเป็นผู้ส่งออกรุ่นใหม่ รวมถึงพัฒนาหลักสูตรสร้างผู้ช่วยขายออนไลน์ ร่วมกับสถาบันปัญญาภิวัฒน์ สร้างนักค้าออนไลน์ให้กับผู้ประกอบการ

3.การพัฒนาคุณภาพสินค้า จะเร่งสร้างแบรนด์ประเทศไทยด้วยการมอบตราสัญลักษณ์รับรองคุณภาพให้กับผู้ส่งออก ได้แก่ เครื่องหมาย TMark , DEMark , PM-Award , Thai Select และรางวัลด้านโลจิสติกส์ ELMA และจะนำแบรนด์ไทยเจาะตลาดเป้าหมาย เช่น จีน อินเดียและอาเซียน

4.ด้านการพัฒนาภายในองค์กร ระบบให้บริการ จะพัฒนาฐานข้อมูลด้านการค้าระหว่างประเทศด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ต่อยอด DITP Business AI ให้มีประสิทธิภาพ เน้นให้สามารถใช้งานง่าย ขยายขอบเขตและความหลากหลายของฐานข้อมูลทันต่อสถานการณ์ขึ้น ส่งผลให้การตัดสินใจของผู้ส่งออกแม่นยำขึ้น