กบข.กางแผนปี63 ดันสมาชิกออมเพิ่ม 'แสนคน'

กบข.กางแผนปี63 ดันสมาชิกออมเพิ่ม 'แสนคน'

มุ่งสู่กองทุนบำนาญยั่งยืน ตั้งเป้าสมาชิกไม่น้อยกว่า 10%  หรือ 1 แสนคน “ออมเพิ่ม” และปรับแผนการลงทุน  หวังให้มีเงินเกษียณ 80% ของเงินเดือนสุดท้าย มั่นใจปีหน้ายังรักษาผลตอบแทนให้สมาชิกในระดับ 4-5% เกาะติดสถานการณ์ลงทุนใกล้ชิด 

นายวิทัย รัตนากร เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เปิดเผยว่า ในปี2563 กบข.จะมุ่งสู่การเป็นกองทุนบำนาญยั่งยืน  พร้อมร่วมสร้างสังคมที่ยั่งยืน โดยมีเป้าหมายให้สมาชิกมีเงินออมเมื่อเกษียณที่เพียงพอ  โดยควรมีเงินออมคิดเป็น80%ของเงินเดือนสุดท้ายก่อนเกษียณ  ดังนั้นสมาชิกต้องออมเพิ่ม และเลือกแผนลงทุนที่เหมาะสม

 "กบข. กำหนดเป้าหมาย มีสมาชิกไม่ต่ำกว่า10%หรือ1แสนคน ต้องออมเพิ่มและเลือกแผนลงทุนเพิ่มเติมในปี2563 ซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่ท้าทายมากเมื่อเทียบกับยอดสมาชิกที่ออมเพิ่มและเลือกแผนลงทุนเพิ่มเติมในช่วงที่ผ่านมา"  นายวิทัย กล่าว

สำหรับการสร้างสังคมมีความยั่งยืน ในปี2563 มีเป้าหมายส่งเสริมให้นักลงทุนสถาบันหันมาให้ความสำคัญกับการนำปัจจัย ESG ไปเป็นส่วนหนึ่งในการคัดเลือกผู้จัดการกองทุนภายนอก ซึ่งกบข.ได้เริ่มนำหลักเกณฑ์ปัจจัย ESG มาใช้คัดเลือกผู้จัดการกองทุนภายนอกมาแล้วตั้งแต่ปี2562 และเลือกลงทุนเฉพาะหลักทรัพย์ที่คำนึงถึงปัจจัยESG 

โดยกบข.ตั้งเป้าหมายสำหรับปี2563ไว้ว่าการลงทุนในประเทศทั้งหมดทั้งหุ้นและตราสารหนี้ต้องเป็น100%  ESG Portfolio ทั้งหมด  นั่นหมายความว่ากบข.จะเข้าลงทุนเฉพาะในบริษัทที่คำนึงถึงและให้ความสำคัญต่อปัจจัยESGเท่านั้น

นอกเหนือจากแผนงานส่งเสริมการออมเพื่อการเกษียณให้กับสมาชิกแล้ว ในต้นปี2563 กบข.ยังพร้อมเปิดตัว“ดัชนีความพร้อมเพื่อการเกษียณของสมาชิกกบข.” (Member Retirement Readiness Index) เพื่อใช้เป็นเครื่องวัดผลความสำเร็จในการส่งเสริมการออมให้กับสมาชิก และพร้อมเริ่มโครงการความร่วมมือกับจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยในการพัฒนา“ดัชนีความพร้อมเพื่อการเกษียณระดับประเทศ” (National Retirement Readiness Index)เพื่อเป็นดัชนีอ้างอิงความพร้อมในการเกษียณของคนไทยทั้งประเทศรองรับกับปัญหาสังคมสูงวัยที่จะเป็นปัญหาหลักของประเทศในอนาคต

ทั้งนี้ ปัจจุบัน กบข.มีสมาชิกประมาณ1.1ล้านคน มีมูลค่าสินทรัพย์สุทธิประมาณ 9.5แสนล้านบาท โดยจะมีเงินลงทุนใหม่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย3-4หมื่นล้านบาทต่อปี ในปีหน้าคาดว่าจะใกล้เคียงจากปีนี้ ซึ่งมาจากทั้งเงินที่สมาชิกใส่เพิ่มเข้ามาและผลตอบแทนการลงทุนที่เพิ่มขึ้น

ด้านผลตอบแทนการลงทุนล่าสุดอยู่ที่5.3% คาดสิ้นปีนี้อยู่ที่5%   โดยกบข.ยังคงเน้นการสร้างผลตอบแทนอย่างเสม่ำเสมอให้กับสมาชิก ส่วนปีหน้าคาดผลตอบแทนจะอยู่ในระดับ4-5% ปัจจุบันสัดส่วนการลงทุนแบ่งเป็นหุ้น 18 -20 เป็นหุ้นไทย7% หุ้นตลาดพัฒนาแล้ว3% หุ้นตลาดเกิดใหม่7%  เป็นตราสารหนี้ 65%และที่เหลือเป็นสินทรัพย์ทางเลือก เช่น กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และ กองทุนอสังหาริมทรัพย์

 " ทิศทางการลงทุนยังต้องติดตามสถานการณ์ต่างๆในช่วงเดือนม.ค.ปีหน้าอีกครั้ง โดยเฉพาะปัจจัยภายนอกประเทศ หากยังราบรื่นและเศรษฐกิจมีการฟื้นตัว จะยังคงสัดส่วนลงทุนหุ้นต่างประเทศไว้อยู่แต่หากสถานการณ์เลวร้ายลงมีโอกาสที่จะปรับลดสัดส่วนดังกล่าวลง เพื่อป้องกันความเสี่ยงและยังสามารถสร้างผลตอบแทนอย่างสม่ำเสมอตามเป้าหมาย"  เลขาธิการ กบข.กล่าว