'ซูเปอร์โพล' เผย แฟนคลับ 'พปชร.' ไม่พอใจพรรคแก่งแย่งอำนาจ

'ซูเปอร์โพล' เผย แฟนคลับ 'พปชร.' ไม่พอใจพรรคแก่งแย่งอำนาจ

“ซูเปอร์โพล” เผยผลสำรวจ ”เสียงของคนพลังประชารัฐ” 43.1% ระบุ “ประวิตร” ผู้ทรงอิทธิพลดูแลพรรคพลังประชารัฐได้ดี ขณะที่ แฟนคลับไม่พอใจ เรื่องการแก่งแย่งอำนาจ

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.62 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง เสียงของคนพลังประชารัฐ กรณีศึกษาเฉพาะกลุ่มประชาชนที่เคยเลือกพรรคพลังประชารัฐทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,125 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ระหว่าง 18 - 19 ธันวาคม .. 2562 ที่ผ่านมา

5 อันดับแรกคนในพรรคพลังประชารัฐผู้ทรงอิทธิพลดูแลพรรคได้ดี ได้แก่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ร้อยละ 43.1 รองลงมาคือ นายอุตตม สาวนายน ร้อยละ  26.7 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ร้อยละ 26.0 นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ร้อยละ 18.4 และนาย ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ร้อยละ 15.8 ตามลำดับ

5 อันดับแรกผลงานสะท้อนภาพลักษณ์ของพรรคพลังประชารัฐที่ประชาชนพอใจ ได้แก่ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ร้อยละ 43.5 รองลงมาคือ ดูแลบ้านเมืองสงบสุข ร้อยละ 42.7 ชิมช้อปใช้ร้อยละ 40.9 น้ำมัน B 10 ช่วยชาวสวนปาล์ม ร้อยละ 36.7 และจัดการคนสร้างข่าวเท็จและทำผิดกฎหมายในโลกโซเชียลร้อยละ 34.4 ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ที่น่าเป็นห่วงคือ ภาพลักษณ์พรรคพลังประชารัฐที่ประชาชนผู้เคยเลือกพรรคพลังประชารัฐไม่พอใจ ได้แก่ แก่งแย่งอำนาจ แย่งผลประโยชน์ แย่งชามข้าว ร้อยละ 62.7 แบ่งเป็นพวก แบ่งเป็นก๊ก ไม่สามัคคี ไม่เป็นหนึ่งเดียวกัน ร้อยละ 60.8 ล่าช้าแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชน ร้อยละ 53.1 ปกป้องพรรคพวกตนเอง ร้อยละ 49.7 และยังไม่มีผลงานชัดเจน ร้อยละ 42.8 ตามลำดับ

ที่น่าพิจารณาคือ ความคาดหวังของผู้เคยเลือกพรรคพลังประชารัฐต่อพรรคพลังประชารัฐในปีหน้า ได้แก่ แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ส่งเสริมราคาและผลผลิตการเกษตร ร้อยละ 84.5 ซื่อสัตย์สุจริต ร้อยละ 79.5 ทำบ้านเมืองให้สงบสุข ไม่วุ่นวาย ร้อยละ 65.3 แก้ปัญหายาเสพติด อาชญากรรม ร้อยละ 57.8 และมีผลงานรูปธรรมจับต้องได้ ร้อยละ 54.5 ตามลำดับ 

นอกจากนี้ ถ้าพรรคพลังประชารัฐทำให้ผิดหวัง ผู้เคยเลือกพรรคพลังประชารัฐจะมีจุดยืนทางการเมืองคือ เกินครึ่งหรือร้อยละ 53.4 จะกลายเป็นพลังเงียบ ร้อยละ 30.8 จะเปลี่ยนไปเลือกพรรคอื่น ในขณะที่ร้อยละ 15.8 จะยังคงเลือกพรรคพลังประชารัฐ ต่อไป