‘บ้านปู’ ซื้อแหล่งก๊าซใหม่-หนุนอัพไซด์พุ่ง

‘บ้านปู’ ซื้อแหล่งก๊าซใหม่-หนุนอัพไซด์พุ่ง

แม้ขณะนี้จะเข้าสู่ช่วงปลายปีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าบริษัทจดทะเบียนไทยหลายแหล่งยังมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจให้ติดตาม หนึ่งในนั้น คือ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ที่เดินหน้าขยายกิจการอย่างต่อเนื่อง

ช่วงนี้มีข่าวออกมาแทบทุกวัน เริ่มตั้งแต่ดีลใหญ่การเข้าซื้อแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ ในประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยเงินลงทุนสูงถึง 770 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท

โดยเหมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ที่รัฐเทกซัส ทางตอนใต้ของสหรัฐ ถือเป็นแหล่งผลิตก๊าซธรรมชาติที่สำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งในพื้นที่รัฐแถบชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก มีระบบโครงสร้างพื้นฐานและการคมนาคมขนส่งรองรับอยู่แล้ว โดยมีปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติในไตรมาส 3 ปี 2562 คิดตามสัดส่วนการลงทุนประมาณ 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติที่พิสูจน์แล้ว (1P) คิดตามสัดส่วนการลงทุนประมาณ 3.5 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต

การลงทุนครั้งนี้ส่งผลให้กำลังการผลิตรวมของธุรกิจก๊าซธรรมชาติในสหรัฐของบ้านปู เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เป็น 700 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และจะมีปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติ 1P เพิ่มขึ้นอีกกว่า 3 เท่าตัว เป็นประมาณ 4.2 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต โดยกระบวนการเข้าซื้อกิจการจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 ปี 2563

หากวิเคราะห์กันแล้วต้องบอกว่าดีลนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทที่ต้องการดำเนินธุรกิจพลังงานอย่างครบวงจร โดยการแสวงหาโอกาสจากการลงทุนในธุรกิจพลังงานใหม่ๆ โดยเฉพาะพลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียน เพื่อกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจถ่านหินซึ่งเป็นรายได้หลักในปัจจุบัน หลังแนวโน้มราคาถ่านหินในตลาดโลกปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจากผลกระทบของสงครามการค้า และปริมาณความต้องการใช้ที่ค่อยๆ ลดลง

โดยบ้านปูตั้งเป้าว่าภายในปี 2568 กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายภาษี ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จากธุรกิจพลังงานสะอาด ทั้งโรงไฟฟ้พลังงานหมุนเวียน ก๊าซธรรมชาติ เทคโนโลยีด้านพลังงาน ฯลฯ จะเพิ่มเป็นมากกว่า 50% จากปัจจุบันที่ 25% ส่วนที่เหลือเป็นธุรกิจเหมืองถ่านหินและโรงไฟฟ้าถ่านหิน

ที่ผ่านมา บ้านปู ถือว่าเอาจริงในการเดินหน้ารุกธุริจพลังงานสะอาด ล่าสุดมีการจัดตั้งบริษัทใหม่ “บ้านปู เน็กซ์” เพื่อดูธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนของบริษัทโดยเฉพาะ และตั้งเป้าจะผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรวมโซลาร์รูฟท็อปเป็น 1,623 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 จากปัจจุบันอยู่ที่ 406.7 เมกะวัตต์

การลงทุนของบ้านปูยังไม่หมดเท่านี้ เพราะบริษัทพึ่งประกาศเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในเหมืองถ่านหิน Springvale ที่ประเทศออสเตรเลีย เป็น 100% จาก 50% มูลค่ารวม 40.9 ล้านออสเตรเลียดอลลาร์ หรือ ประมาณ 864 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการดำเนินงานของเหมืองใต้ดินในเขตตะวันตกของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้แก่ เหมือง Springvale ซึ่งมีปริมาณถ่านหินสำรอง 25.7 ล้านตัน มีกำลังการผลิต 5.5 ล้านตันต่อปี และส่งถ่านหินให้แก่โรงไฟฟ้า Mount Piper และ โครงการ Angus place มีปริมาณถ่านหินสำรอง 55.2 ล้านตัน

ด้านบล.หยวนต้า ระบุว่า การเข้าลงทุนในแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์จะสร้าง EBITDA ให้บริษัทราว 100 ล้านดอลลาร์ต่อปี คิดเป็นอัพไซด์ 13% จากประมาณการปี 2563 ของฝ่ายวิจัย อย่างไรก็ตาม แม้ดีลนี้จะไม่ได้เพิ่มกำไรให้บริษัทมากนักในระยะสั้น เนื่องจากราคาก๊าซยังอ่อนแอ และถูกหักล้างด้วยต้นทุนเงินกู้

แต่จะส่งผลบวกในระยะยาว เพราะเป็นการขยายไปสู่แหล่งผลิตก๊าซทางใต้ของสหรัฐเป็นครั้งแรก จากปัจจุบันมีการลงทุนอยู่ทางตอนเหนือ และด้วยขนาดและภูมิศาสตร์ทำให้มีศักยภาพที่จะขยายสู่ตลาดส่งออกในอนาคต รวมทั้งยังสามารถรับรู้กระแสเงินสดได้ทันทีและยังสอดคล้องกับกลยุทธ์ของบริษัทที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนธุรกิจที่ไม่ใช่ถ่านหิน ราคาที่เข้าซื้อถือว่าไม่แพง อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยยังไม่ได้รวมการเข้าซื้อโครงการนี้ไว้ในประมาณการ โดยยังรอความชัดเจนของรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อทำประมาณการ