'พีระพันธุ์' เข้าทำเนียบฯ คุย 'ประยุทธ์' จ่อช่วยอุดช่องสัญญาทำรัฐเจ๊ง

'พีระพันธุ์' เข้าทำเนียบฯ คุย 'ประยุทธ์' จ่อช่วยอุดช่องสัญญาทำรัฐเจ๊ง

"พีระพันธุ์" ดอดเข้าทำเนียบฯ ถก "นายกฯ" หลังนั่ง "ที่ปรึกษานายกฯ" จ่อช่วยอุดช่องโหว สัญญาโครงการทำรัฐเสียหาย คนเอี่ยวลอยนวล แย้มพร้อมนั่ง "ปธ.กมธ.แก้รธน."   

เมื่อถามว่า ชื่อนายพีระพันธุ์ ที่ปรากฎมาในสัดส่วนของครม. หากในที่ประชุม กมธ.มีมติเลือกให้เป็นประธานกมธ.ก็พร้อมทำหน้าที่ทันทีใช่หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า “ถ้าได้รับเลือกก็ทำได้อยู่แล้ว มันไม่ต่างกับกรรมาธิการอื่นๆ เหมือนกันหมด เราอยู่ในสภาฯมานานแล้ว ทำหน้าที่ประธานมาก็หลายคณะแล้ว”    

เมื่อถามอีกว่าพล.อ.ประยุทธ์ ได้มอบหมายเรื่องงานในด้านกฎหมายในรายละเอียดอย่างไรบ้าง นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการมอบหมายให้ดูเรื่องไหนเป็นพิเศษ การที่ตนได้หารือกับนายกฯในวันนี้ อาจจะต้องมีการศึกษาต่อไปว่ากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามทุจริตประพฤติมิชอบ ต้องปรับปรุงอะไรบ้างหรือต้องเพิ่มกฎหมายอะไรหรือไม่ รวมถึงกฎระเบียบทางราชการที่ยังมีช่องโหว่อยู่    

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ก็มีคนติดต่อให้มาช่วยงานได้หรือไม่ ซึ่งไม่ใช่คนในแวดวงการเมือง และไม่เกี่ยวข้องกับเงื่อนไขในการที่จะต้องเป็นสมาชิกพรรคใดพรรคหนึ่ง เมื่อถามว่าทางพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้มีการทาบทามให้เป็นสมาชิกพรรคหรือไม่ นายพีระพันธุ์ ปฏิเสธทันทีว่าไม่มี ไม่มีจริงๆ ขณะนี้ตนก็ยังไม่ได้ไปสังกัดที่ไหน มีเพียงการติดต่อมาให้ช่วยรัฐบาล เพราะมีคนเห็นว่าตนยังไม่ได้ทำอะไร อยู่เฉยๆ ในเมื่อว่างๆ ก็มาทำตรงนี้ก่อน    

เมื่อถามว่า ในเรื่องกฎหมายและการป้องกันการทุจริตนั้น คิดว่ามีประเด็นใดสำคัญที่ต้องลงไปดู นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าที่ผ่านมา หลายรัฐบาลก็พยายามแก้ไข ตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายอานันท์ ปัญยารชุน ได้ออกกฎหมาย เรื่องการร่วมกิจการงานของรัฐ เพื่อดูแลโครงการใหญ่ ต่อมาได้ออกกฎหมายป้องกันการฮั้ว แต่ทุกวันนี้มันออกไปในเชิงเรื่องของสัญญา และใช้ช่องโหว่ของสัญญาที่มีการเซ็น จนกลายเป็นว่ารัฐผิดสัญญาตลอด เพราะฉะนั้น คิดว่าควรจะต้องมีอะไรมากำกับดูแลการทำสัญญาโครงการของหน่วยงานของรัฐ เพื่อไม่ให้มีช่องโหว่กันอีก ถ้าไม่ควบคุมส่วนนี้ ก็จะมีคดีอีก ซึ่งก่อนหน้านี้มันเริ่มมาจากความเสียหายหลักพันล้าน จนกลายเป็นหมื่นล้านแสนล้าน แล้วจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ได้อย่างไร คงจะต้องศึกษาและเสนอนายกฯต่อไป รวมถึงคดีที่รัฐถูกฟ้อง ตลอดจนกฎระเบียบราชการที่ไม่ใช่กฎหมาย เป็นระเบียบปฏิบัติทั่วไป หากมีช่องโหว่ก็ต้องปรับปรุงเช่นเดียวกัน          

“วันนี้คุยกับนายกฯ ในเรื่องแบบนี้เท่านั้นเอง ยังไม่เจาะจงว่าเป็นโครงการไหน เพราะผมเพิ่งมา ท่านก็ให้ผมลองศึกษาดู แล้วมาหารือกันว่าจะต้องเสนอกฎหมายใหม่หรือไม่ หรือต้องแก้กฎหมายอะไร เพื่อให้เกิดประโยชน์ในการป้องกันและปราบปรามทุจริต แต่ผมไม่ได้มาดูกฎหมายของรัฐบาล ผมเป็นที่ปรึกษานายกฯ ก็แล้วแต่นายกฯ จะมอบหมายและที่ได้คุยกับท่านเมื่อเช้า อย่างน้อยผมคิดว่าประเด็นเรื่องพวกนี้จะเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองโดยรวม เพราะทุกวันนี้มันหนักขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งมาจากเรื่องกฎหมาย กฎระเบียบที่เปิดช่องให้เกิดการทุจริตแบบนี้ได้ง่ายๆ และหาคนรับผิดชอบไม่ได้ คนที่เกี่ยวข้องก็รู้ว่าสุดท้ายไม่ต้องรับผิดชอบ ก็สบายกันใหญ่ เราต้องหาทางแก้ไข” นายพีระพันธุ์ กล่าว