'เลขาสภา' รับไม่ได้ชาย 2 คนจูบปากกันที่สภา

 'เลขาสภา' รับไม่ได้ชาย 2 คนจูบปากกันที่สภา

"สรศักดิ์" รับไม่ได้ เหตุการณ์ชาย 2 คนจูบปากกันระหว่างแถลงข่าวที่สภา แง้ม เตรียมร่างระเบียบพร้อมบทลงโทษ เสนอประธานสภาพิจารณา

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 62 นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงเหตุการณ์ชาย 2 คน จูบปากกันระหว่างการแถลงข่าวของคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ ว่า สภาผู้แทนราษฎรมีระเบียบเกี่ยวกับการแถลงข่าวตั้งแต่สมัย นายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยมีหลักการให้สมาชิกและอดีตสมาชิกใช้พื้นที่แถลงข่าวได้ ต่อมามีแนวคิดจะปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมในยุคสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. แต่ที่สุดก็ยังไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบ จนขณะนี้ทางสำนักเลขธิการสภาผู้แทนราษฎรได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายตั้งทีมเพื่อปรับปรุงแก้ไขระเบียบต่างๆ 18 ฉบับ ซึ่งเรื่องการแถลงข่าวก็เป็นหนึ่งในระเบียบที่ต้องมีการปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและข้อบังคับการประชุมฉบับปัจจุบัน โดยจะพิจารณาว่า นอกจากจะให้สิทธิ์แก่สมาชิก หรืออดีตสมาชิกหรือไม่แล้วนั้น ก็จะมีการพิจารณาว่าควรมีการกำหนดบทลงโทษด้วยหรือไม่ หากมีการแถลงข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง หรือไม่เหมาะสม โดยจะใช้เวลาประมาณ 2 เดือนเพื่อจัดทำระเบียบฉบับใหม่ โดยจะนำรายละเอียดเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรอีกครั้งหนึ่ง

ส่วนเหตุการณ์ชาย 2 คนจูบปากกันระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ นายสรศักดิ์ กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม รับไม่ได้ แต่เบื้องต้นตามระเบียบไม่มีการกำหนดบทลงโทษไว้ชัดเจนในกรณีนี้ แต่มอบหมายให้สำนักประชาสัมพันธ์ทำรายงานส่งต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรทันที โดยประธานสภาผู้แทนราษฎรสั่งการให้คณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ ทำรายงานชี้แจงข้อมูลรายละเอียดทั้งหมด เพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป

ส่วนจะจัดอบรมทำความเข้าใจ ส.ส.สมัยแรก เกี่ยวกับธรรมเนียมปฏิบัติหรือไม่นั้น นายสรศักดิ์ กล่าวว่า สํานักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้จัดอบรมไปแล้วครั้งหนึ่ง ตอนที่ยังใช้ห้องประชุมที่สำนักงานใหญ่ TOT แจ้งวัฒนะ แต่ไม่มีการอบรมเกี่ยวกับการแถลงข่าว แต่ยืนยันว่าจะจัดทำระเบียบฉบับใหม่ให้เร็วที่สุด โดยระหว่างนี้ก็กำชับให้เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ดูแลการแถลงข่าวพร้อมบันทึกเทป

ส่วนกรณีที่เคยเกิดขึ้น อย่างกรณี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ นำสารประกอบวัตถุระเบิดมาแถลงข่าว สถานีตำรวจนครบาลบางโพก็ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว ส่วนเหตุการณ์เมื่อวานนี้ยังไม่ถึงขั้นเอาผิดตามกฎหมาย ซึ่งทางคณะกรรมาธิการก็ได้ขอโทษมาแล้ว