'โอคาเกะโยโคะโจ' ต้นแบบธุรกิจท่องเที่ยวเมืองรองญี่ปุ่น

'โอคาเกะโยโคะโจ'  ต้นแบบธุรกิจท่องเที่ยวเมืองรองญี่ปุ่น

"ย่านโอคาเกะโยโคะโจ" ตั้งอยู่ในเมืองอิเสะ เป็นถนนคนเดินยอดนิยมติดอันดับ 1 ใน 10 ของประเทศญี่ปุ่น แม้เทียบชั้นแล้วสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ จัดได้ว่าเป็นเมืองรอง แต่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีความเฟื่องฟู และถูกยกให้เป็นต้นแบบธุรกิจ

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร) จัดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “การท่องเที่ยวชุมชน ต้นแบบจากญี่ปุ่น” โดยศึกษากรณีโอคาเกะโยโคะโจ โมเดล เพื่อนำไปสู่การพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้ก้าวหน้า

ฟูมิชิโร ฮาชิกาวา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิเสะฟูกุ เล่าถึงโอคาเกะโยโคะโจ โมเดล หนึ่งในต้นแบบเมืองท่องเที่ยวของญี่ปุ่นที่ประสบความสำเร็จว่า เมืองแห่งนี้กลายเป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและต่างชาติ ที่มีจุดขายเรื่อง “มนต์เสน่ห์กลิ่นอายเอกลักษณ์ของเมือง ผสมผสานความเชื่อและศรัทธา” ทำให้อิเสะ ซึ่งเป็นเมืองรอง เป็นที่รู้จักระดับประเทศ 

157672948571

              มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาที่นี่ ประมาณ 7 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่กลับมาเยือนหลายๆครั้ง   คิดเป็นสัดส่วนถึง 70%ของนักท่องเที่ยวที่มาเมืองอิเสะโดยรวม  

157672983273
- ฟูมิชิโร ฮาชิกาวา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิเสะฟูกุ -

อิเสะ อยู่ในจ.มิเอะ ตั้งอยู่ในภาคกลางของประเทศ เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นที่ตั้งของ ศาลเจ้าอิเสะ อันเป็นที่เคารพสักการะ มีพระพุทธรูปชินโต ที่มีความศักดิ์สิทธิ์อายุกว่า 2,000 ปี โดยเมืองอิเสะยังคงกลิ่นอายทางประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นไว้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีขนมธรรมเนียบประเพณี งานเทศกาลฉลองศาลเจ้า และพิธีต้อนรับผู้เดินทางมาสักการะศาลเจ้า​ 

หากแต่เมืองอิเสะ เคยประสบปัญหาเศรษฐกิจซบเซา ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่2 ทำให้เมืองถูกละเลยและเสื่อมโทรมลง แต่นักธุรกิจและผู้ประกอบการในพื้นที่ไม่อาจทนเห็นสภาพเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของเมืองค่อยๆถดถอยลงได้ จึงวางแผนฟื้นฟูเมืองในมิติด้านการท่องเที่ยว

157673034363

เจ้าของร้านขนมเก่าแก่ของเมืองอิเสะที่ชื่อ “อากะฟุ” ซึ่งปัจจุบันเป็นบริษัทชั้นแนวหน้าของชุมชน  ลุกขึ้นมาปฏิวัติแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยว และประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและหน่วยงานราชการ   มุ่งปรับทัศนียภาพให้กับเมืองอิเสะ

แผนฟื้นฟูสถานที่ท่องเที่ยว เริ่มต้นจากย่านโอคาเกะโยโคะโจ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินสู่ศาลเจ้า    โดยการขออนุญาตนำสายไฟฟ้าลงดิน   พัฒนาทางเท้าให้เป็นถนนคนเดิน   ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ตึกรามบ้านช่องและอาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยเอโดะ  ให้คงสภาพเดิมไว้ให้มากที่สุด  แม้ว่าภายในจะได้รับการตกแต่งดัดแแปลงสภาพให้สามารถใช้งานตามความเหมาะสม

157673045014

การก่อสร้างย่านโอคาเกะโยโคะโจเสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 2536  และทางการ เริ่มโปรโมทให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวประจำเมืองอิเสะ เดิมทีเป็นที่รู้จักเป็นแหล่งท่องเที่ยวพื้นเมือง  ถ่ายทอดวัฒนธรรมประเพณีอันเก่าแก่  แต่ตอกย้ำจุดขายและปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับอารมณ์   และพฤติกรรมของผู้บริโภคเพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยว  ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเมืองอิเสะประสบความสำเร็จ  และมีจำนวนนักท่องเที่ยวมาเยือนมากขึ้นทุกๆปี  ส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

157673050063

      ฟูมิชิโร เผยถึง 3 ปัจจัยที่ส่งผลให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเมืองอิเสะประสบความสำเร็จ เริ่มจาก 1.สิ่งปลูกสร้างที่เชิดชูความงดงามของอาคารตึกเก่าแก่สมัยเอโดะ และสาธารณูปโภคที่พร้อมสรรพ แม้ว่า อิเสะ จะเป็นเมืองขนาดเล็ก มีพื้นที่ประมาณ 179 ตร.กม. และพื้นที่ 1 ใน 3 เป็นป่าเบญจพรรณ แต่กลิ่นอายอารยธรรมผสมผสานกับธรรมชาติที่เป็นต้นทุนเดิม เพิ่มเสน่ห์ในสถาปัตยกรรมให้ผู้มาเยือนรู้สึกว่าได้หวนกลับคืนสู่อดีต และไม่สามารถหาบรรยากาศแบบนี้ได้ในเมืองไหน

      2.สินค้าสะท้อนความเป็นเอกลักษณ์แบบอิเสะ ทั้งของฝากและอาหาร เพราะเมื่อนักท่องเที่ยวได้สัมผัสรสชาติอาหารที่นี่ ย่อมรู้สึกถึงเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น อีกทั้งคนส่วนใหญ่เดินทางมาที่นี่ เพื่อสักการะศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ ย่อมต้องการซื้อสินค้ากลับไปเป็นของฝาก และ 3.สร้างเหตุการณ์พิเศษในรูปแบบของเทศกาลต่างๆ เพื่อเพิ่มความประทับใจให้กับผู้มาเยือนด้วยการสร้างความรู้สึกถูกปลดปล่อยเป็นอิสระจากสถานที่เดิมๆ แตกต่างจากวันทั่วไป เพื่อมาเป็นคนสำคัญในสถานที่แห่งนี้ 

      “สถานที่ท่องเที่ยวจะเป็นที่รู้จักได้ ต้องมีเรื่องราวเพื่อบอกเล่าแก่นักท่องเที่ยว    และถ่ายทอดไปยังคนอื่นๆ    สร้างความจดจำ   ประทับใจและเสาะแสวงหาเพื่อให้บรรดานักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนที่นี่” ฟูมิชิโร กล่าว

      สำหรับชาวเมืองอิเสะให้ความเคารพศรัทธาองค์พระพุทธรูปที่ประดิษฐานในศาลเจ้า และยังนับถือบูชาเมล็ดพันธุ์ข้าว  ดังนั้นเมื่อนักท่องเที่ยวได้มานมัสการพระพุทธรูปแล้ว  และได้รับประทานอาหารที่ทำมาจากข้าว  ไม่ว่าจะเป็นขนมหรือชาข้าว  ก็จะรู้สึกซาบซึ้งใกล้ชิดเทพเจ้ามากขึ้น   นำไปสู่ความสุข  แล้วเกิดความต้องการแบ่งปันนำขนมที่นี่ไปเป็นของฝากให้กับญาติและเพื่อนฝูง เพื่อให้เข้าถึงความสุขที่ล้ำลึกนี้ด้วยเช่นกัน

157673057666

แล้วอีกหนึ่งตำนานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อย เป็นเรื่องราวของสุนัขยอดกตัญญูที่ดั้นด้นเดินทางเพื่อเข้าสักการะศาลเจ้า แทนเจ้านายที่กำลังล้มป่วย ซึ่งได้กลายเป็นเรื่องเล่าที่หลายคนต้องการเดินทางมาร่วมย้อนรอย และเยี่ยมชมเมืองนี้ นี่คือกุศโลบายด้านการท่องเที่ยวที่แฝงไปด้วยคำสอนให้สำนึกรู้คุณที่ถ่ายทอดไปยังรุ่นลูกรุ่นหลาน 

157677401372

“แม้จุดเริ่มต้นของการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในเมืองอิเสะเกิดขึ้นจากความต้องการหลุดพ้นจากการท่องเที่ยวที่ซบเซา และฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ ภายใต้เงื่อนไขการเคารพและซาบซึ้งวัฒนธรรมทางประวัติศาสตร์ท้องถิ่น แต่ในทางกลับกัน หากเราเริ่มต้นจากการมุ่งหากำไรเพียงอย่างเดียว ก็คงไม่ประสบความสำเร็จเช่นวันนี้” ซีอีโอบริษัทอิเสะฟูกุ กล่าว

ปัจจุบัน เมืองอิเสะ มีความสำคัญในระดับภูมิภาค เป็นประตูสู่การศึกษาประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และเป็นเมืองอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวระดับแนวหน้า จากความร่วมแรงร่วมใจของคนในท้องถิ่นและชุมชน

157673062297

ฟูมิชิโร มองว่า ไกด์อาสาประจำท้องถิ่นก็มีความสำคัญมาก  เพราะยิ่งเข้าใจและซาบซึ้งวัฒนธรรมของสถานที่มากเท่าไหร่  ย่อมถ่ายทอดไปสู่นักท่องเที่ยวได้อย่างครบถ้วน  ขณะเดียวกันก็มีการผลักดันให้คนรุ่นใหม่รับช่วงต่อ ไม่เพียงเป็นการถ่ายทอดความรู้ในเชิงประวัติศาสตร์ ยังเป็นการสร้างความรู้สึกห่วงแหนถิ่นอาศัย และสร้างอาชีพให้แก่ชุมชนอย่างยั่งยืน

ฟูมิชิโร กล่าวปิดท้ายว่า การพัฒนาย่านโอคาเกะโยโคะโจ จนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นของเมืองอิเสะ นับว่าประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง และถูกยกให้เป็นเมืองต้นแบบ นำไปสู่การพัฒนาพื้นที่ใกล้เคียงอย่างเช่น ย่านโอฮาระอิมาจิ และเมืองอื่นๆที่อยู่ติดกัน