ยอดใช้ 'พร้อมเพย์' แซง 'เอทีเอ็ม'

ยอดใช้ 'พร้อมเพย์' แซง 'เอทีเอ็ม'

ในช่วงนี้ยอดใช้จ่ายผ่านมาตรการ “ชิมช้อปใช้”ของรัฐบาลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ล่าสุดพุ่งกว่า 2หมื่นล้านบาท มีผู้ใช้สิทธิ์กว่า11ล้านราย

 ในจำนวนนี้ประมาณ 50%หรือกว่า 1 หมื่นล้านบาทเป็นการใช้จ่ายผ่านกระเป๋าเงินช่อง2 จากมีผู้ใช้จ่ายกว่า3แสนคน มียอดใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ3หมื่นบาทและสูงสุดนับแสนบาทต่อราย

กระทรวงการคลังคาดการณ์ว่า จนถึงสิ้นสุดมาตรการ คือ สิ้นเดือนม.ค.นี้ ยอดใช้จ่ายผ่านกระเป๋า 2 จะพุ่งถึง 3 หมื่นล้านบาท หลังจากคืนสิทธิ์ให้กับผู้ที่ถูกตัดสิทธิ์จำนวนกว่า 1 ล้านรายให้สามารถกลับมาใช้กระเป๋าที่ 2 ได้ รวมถึง การประกาศ “แจกโชค”มูลค่ารวม 12 ล้านบาทสำหรับผู้ที่ใช้จ่ายผ่านกระเป๋าที่ 2

ทั้งนี้ มาตรการชิมช้อปใช้ ถือเป็นหนึ่งในแนวทางจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือที่เรียกว่า “อีเพย์เม้นท์” แทนการใช้จ่ายผ่านเงินสดมากขึ้น  

ล่าสุด ในการประชุมคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้รายงานว่า ในปีนี้เป็นปีที่พิเศษ โดยยอดใช้จ่ายผ่านระบบอีเพย์เม้นท์ดีขึ้นมาก โดยเฉพาะ “พร้อมเพย์”  เพราะเมื่อเทียบกับระบบการกดเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็มแล้ว เรียกว่า “ชนะขาดเป็นปีแรก” ฉะนั้น นโยบายการสนับสนุนให้ไทยเข้าสู่ “สังคมไร้เงินสด” จึงเริ่มเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมในปีนี้