FETCO ชงคลังยกบทวิเคราะห์เป็นงานวิจัย หวังได้สิทธิลดหย่อนภาษี 3 เท่า

FETCO ชงคลังยกบทวิเคราะห์เป็นงานวิจัย หวังได้สิทธิลดหย่อนภาษี 3 เท่า

FETCO วอนคลังหนุนงานวิจัยตลาดทุนให้รับสิทธิลดหย่อนทางภาษี รับเงินสนับสนุนจากรัฐ เหตุมีส่วนช่วยเศรษฐกิจ

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย(FETCO) เปิดเผยว่าFETCO เตรียมเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาให้สิทธิกับบริษัทหลักทรัพย์(บล.) ที่มีบทวิเคราะห์ให้นับเป็นงานวิจัยและพัฒนา(R&D) เพื่อให้สามารถได้รับสิทธิขอลดหย่อนภาษีนิติบุคคลได้300% หรือ3 เท่าของวงเงินที่ใช้จ่ายเพื่อการวิจัยและพัฒนาได้เนื่องจากปัจจุบันบล.ยังไม่ได้สิทธิดังกล่าวซึ่งหากกระทรวงการคลังเห็นชอบก็จะช่วยให้แต่ละบริษัทผลิตบทวิเคราะห์เข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้นซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยพัฒนาตลาดทุนและช่วยให้นักลงทุนรายย่อยมีข้อมูลก่อนตัดสินใจในการลงทุนด้วย

ทั้งนี้มองว่างานวิจัยในด้านตลาดทุนของบริษัทหลักทรัพย์มีการทำออกมาจำนวนมากเพื่อพัฒนาตลาดให้รู้ทิศทางบริษัทจดทะเบียนในระยะข้างหน้าซึ่งมีส่วนในการสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและตลาดทุนไทยแต่กลับไม่ได้รับการสนับสนุนและไม่ได้สิทธิลดหย่อนทางภาษีเลยในปัจจุบันทั้งที่บริษัทหลักทรัพย์มีความพร้อมด้านนักวิจัยโดยบริษัทจดทะเบียน700 แห่งทำวิจัยการอยู่200 บริษัทอย่างต่อเนื่องส่วนอีก100 บริษัทก็เวียนกันจึงทำให้งานวิจัยด้านการลงทุนช่วยให้นักลงทุนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น

     "อยากให้รัฐบาลให้สิทธิรับเข้าเงื่อนไขการลดหย่อนภาษีด้านR&D ของโบรกเกอร์หรือให้เราได้รับเงินสนับสนุนR&D ของรัฐบาลที่มีอยู่จำนวนมากด้วยเพราะงานวิจัยอื่นอย่างโรบอตกว่าจะเห็นผลดีต่อเศรษฐกิจไทยใช้เวลานานแต่งานวิจัยของโบรกเกอร์เห็นผลทันทีต่อตลาดทุนและเศรษฐกิจไทยแต่ไม่นับให้เราได้สิทธิลดหย่อนทางภาษีเลยเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้ตลาดหลักทรัพย์หรือก...รับรองงานวิจัยแทนสำนักงานการวิจัยแห่งชาติหรือวช."

นอกจากนี้FETCO ยังอยู่ระหว่างเตรียมแผนการเพิ่มบุคลากรในตลาดทุนไทยให้สอดรับกับอุตสากรรมที่ปัจจุบันมีจำนวนน้อยเพียง300 รายเมื่อเทียบกับบริษัททะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอที่มีกว่า700 บริษัทโดยจะเสนอขอวงเงินให้กับคณะกรรมการกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน(ซีเอ็มดีเอฟ) พิจารณาและเห็นชอบถือเป็นการเพิ่มศักยภาพของตลาดทุนไทยและนักลงทุนรายย่อยจะได้มีข้อมูลของแต่ละบจ.ได้ครบถ้วนมากขึ้น

"ปัจจุบันบุคลากรในตลาดทุนไทยถือว่าขาดแคลนและยังไม่ตอบโจทย์การวิเคราะห์บจ.ที่ครอบคลุมเท่าที่ควรเพราะขนาดบจ.มีจำนวนมากขึ้นแต่บุคลากรมีไม่เพียงพอเบื้องต้นต้องการเพิ่มจำนวนให้มากขึ้นส่วนรูปแบบอาจจะผ่านการอบรมหรือเป็นหลักสูตรให้กับผู้ที่สนใจเป็นนักวิเคราะห์การลงทุนก่อน6 เดือนหรือ1 ปีหากสำเร็จเรียบร้อยก็สามารถขยับไปทำงานส่วนอื่นที่เกี่ยวกับตลาดทุนได้ด้วย"

นายลวรณแสงสนิทผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กระทรวงการคลังกล่าวว่าสิ่งที่สภาธุรกิจตลาดทุนไทยเสนอมากระทรวงการคลังก็รับไว้พิจารณาเพราะที่ผ่านมางานด้านR&D ตามปกติทั่วไปต้องมีมูลค่าการลงทุนประมาณ1% GDP แต่ของไทยไม่ต้องพูดถึงยังต่ำแม้ว่าเราจะให้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ถึง3 เท่าของเงินที่ลงทุนด้านR&D หากงานวิจัยนั้นๆมีมาตรฐานและผ่านการรับรองของวช. ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทหรือนิติบุคคลมาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีบ้างแต่ไม่มาก