‘ธนชาต’ ทุ่ม 6 พันล้าน ซื้อหุ้นคืน

‘ธนชาต’ ทุ่ม 6 พันล้าน ซื้อหุ้นคืน

“ทุนธนชาต” เผยเงินสดเหลือกว่า 1.4 หมื่นล้าน หลังจบดีลความกิจการ “ทีเอ็มบี” ขณะ บอร์ด ไฟเขียวนำเงินกว่า 6 พันล้าน ซื้อหุ้นคืน 97 ล้านหุ้น เริ่มก.พ.ปีหน้า พร้อมอนุมัติจ่ายเงินปันผลพิเศษอีกหุ้นละ 4 บาท

นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2562 มีมติให้บริษัทเพื่อบริหารสภาพคล่องส่วนเกินภายหลังปรับโครงสร้างธุรกิจภายในกลุ่ม จากก่อนหน้านี้ที่บริษัทได้ขายหุ้นสามัญ ธนาคารธนชาต (TBANK) และซื้อหุ้นเพิ่มทุน ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB ทำให้มีเงินสดคงเหลือจากรายการดังกล่าว 14,000 ล้านบาท

ดังนั้นจึงพิจารณาโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน วงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินที่เพิ่มเติมจากวงเงินเดิมที่ 5,000 ล้านบาท มีจำนวนหุ้นที่ซื้อคืนไม่เกิน 97.04 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 8.33 % ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยเริ่มซื้อหุ้นคืนในวันที่  11 ก.พ. – 10 ส.ค. 2563  โดยราคาหุ้นที่ซื้อคืน จะไม่เกินราคาเฉลี่ยของวันทำการก่อนซื้อหุ้นคืนในระบบตลาดหลักทรัพย์ฯและไม่เกินกว่า 115 % ของราคาปิดของหุ้นเฉลี่ย 5 วันทำการซื้อขายก่อนหน้านั้น ทั้งนี้ราคาเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วันตั้งแต่ 1 ต.ค. - 13 ธ.ค. 2562 ที่ราคาหุ้นละ 54.61 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้เมื่อรวมกับโครงการซื้อหุ้นคืนก่อนหน้านี้ ระหว่างวันที่ 8 ส.ค. 2561- 7 ก.พ. 2562 จำนวน 19.46 ล้านหุ้น รวมเป็น 116.51 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 10 % ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด เนื่องจากมีเงินสดคงเหลือจากการทำรายการเป็นจำนวนมากกว่าที่บริษัทประมารการณ์ไว้เบื้องต้น และเพื่อให้วงเงินเพียงพอ รองรับในการซื้อหุ้นคืนตามจำนวนที่จะซื้อหุ้นคืน

นอกจากนี้คณะกรรมการยังพิจาณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลพิเศษระหว่างกาล ให้แก่ผู้ถือหุ้นสามัญและผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิ ในอัตรา 4 บาทต่อหุ้น จากกำไรสะสมของบริษัทที่เสียภาษีนิติบุคคล อัตรา 23 % คิดเป็น 0.55 บาทต่อหุ้น และอัตรา 20 % คิดเป็น 3.45 บาทต่อหุ้น ซึ่งจะกำหนดผู้ถือหุ้นมีสิทธิได้รับเงินปันผลวันที่ 30 ธ.ค. 2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผล วันที่ 16 ม.ค. 2563

157650385314

นายสมเจตน์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมยังมีมติแต่งตั้ง นางสาลินี วังตาล ดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระ และกรรมการชุดย่อย ได้แก่ กรรมการตรวจสอบ และกรรมการกำกับความเสี่ยง แทนนายปริญญา หอมเอนก ที่ลาออกไป ขณะเดียวกันได้แต่งตั้ง นายธนชาติ นุ่มนนท์ ดำรงตำแหน่งกรรมการอิสระ และกรรมการชุดย่อย คือ ประธานกรรมการกำกับความเสี่ยง แทนนายธีรนันท์ ศรีหงส์ ที่ลาออก